ช็อกตาตั้ง เปิดห้องมาเจอแต่ขยะเกลื่อนห้อง แทนที่จะได้ค่าเช่าห้องกลับได้เป็นขยะและแมวแทน

กลายเป็นกระแสยอดฮิตของคนที่ปล่อยห้องให้เช่าแล้วว่า หากปล่อยห้องให้คนเช่าก็ต้องทำใจ 50/50 ว่าเราอาจจะไม่ได้เงินค่าเช่าห้องเพราะคนเช่ามักจะหนีหาย หรือบางคนเจอคนเช่าจ่ายเงินค่าเช่าครบแต่ก็ทำแสบด้วยการทำข้าวของเสียหายพังยับเยินจนเงินค่าประกันที่เก็บก่อนให้เข้าพักก็ไม่พอจ่ายค่าจ้างให้คนมาทำความสะอาดให้ ซึ่งปัญหาที่คนเช่าหนี แล้วยังทำห้องที่เคยสวยงามกลายเป็นห้องเน่าๆได้นี้เกิดขึ้นมานานและเกิดบ่อยมาก

แต่คนที่ปล่อยให้เช่าก็ไม่มีทางเลือกเพราะไม่มีอะไรมาบอกเราล่วงหน้าได้เลยว่าคนที่มาขอเช่าห้องเรานั้นมีนิสัยอย่างไร บางคนหน้าตาดี แต่งกายเรียบร้อยสวยงามฉีดน้ำหอมกลิ่นตัวหอมฟุ้งแต่เมื่อเปิดเข้าไปในห้องนอนจะเจอแต่ภาพสยองขวัญ เหมือนกับเรื่องเล่าของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอมีห้องปล่อยให้เช้าอยู่ในระแวกมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี 

ซึ่งเธอได้เล่าประสบการณ์ชวนช็อกหนักของเธอ โดยเธอไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์นี้กับตัวเองมาก่อน ซึ่งเธอได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งมาขอเช่าห้องพัก และอ้อนวอนขอเช่าห้องพักก่อนเพราะเอกสารส่วนตัวหาย กำลังจะไปทำเอกสารใหม่แล้วจะนำเอกสารการเช่าห้องมาให้ หญิงสาวคนดังกล่าวพูดจนเธอใจอ่อนยอมให้เช่าห้องพักแต่เมื่อครบกำหนดสิ้นเดือนที่จะต้องจ่ายเงินค่าเช่าห้อง

ทางเจ้าของห้องกลับติดต่อหญิงสาวคนเช่าไม่ได้ จึงได้เดินทางมาที่ห้องพัก เคาะประตูแล้วไม่มีคนมาเปิด เธอจึงไขกุญแจห้องเข้าไปซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้าไปเธอถึงกับผงะ เพราะสภาพห้องเดิมที่เคยสะอาดสะอ้านกลายเป็นที่เก็บขยะดีๆนี่เอง เธอเล่าว่าแทบไม่มีทางให้เธอเดินเลย

ซึ่งนอกจากจะมีขยะเกลื่อนห้องแล้วเธอยังเจอแมวหนึ่งตัวถูกขังรวมไว้กับขยะด้วย ซึ่งดูจากท่าทางของแมวแล้วน่าจะหิวมาก ตอนนี้เธอไม่สามารถติดต่อคนเช่าห้องได้เพราะเขาได้บล็อกเบอร์โทรของเธอไปแล้ว  เธอจึงมาโพสต์ประกาศตาหาคนที่ใจดีที่จะสามารถรับแมวไปเลี้ยงได้เพราะตัวเธอเองไม่มีเวลาที่จะเลี้ยงแมว ซึ่งหลังจากที่มีคนอ่านโพสต์ก็มีคนเสนอตัวรับเลี้ยงแมวแล้วหลายคน

ส่วนปัญหาคนเช่าห้องนั้นเธอคงต้องปล่อยผ่านเพราะไม่สามารถตามตัวมาได้ ซึ่งเหตุการณ์คนหนีค่าเช่าและทิ้งขยะไว้ในห้องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากทางเจ้าของห้องเช่าควรจะมีกฎกติกาให้เข้มข้นมากว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

ก่อนนั่งชักโครกให้ระวังกดน้ำก่อนหนึ่งครั้งก่อนทำธุระส่วนตัว ไม่อย่างนั้นอาจเจองูนอนรอในคอห่าน ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม 

 สำหรับเรื่องงูเข้าบ้านหรือเรื่องที่มีงูมักจะมาโผล่ในชักโครกนั้น ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเพราะปัญหาเรื่องเกี่ยวกับงูเกิดขึ้นบ่อยมากเรียกว่าเกือบเป็นปัญหารายวันเลยก็ได้ ในสมัยก่อนเรามักจะพบงูตามป่า ตามที่รกชัด ตามกองใบไม้แห้งแต่เดี๋ยวนี้งูได้มีการพัฒนาในการหาที่อยู่อาศัยและถึงแม้บ้านของเราจะสะอาดไม่รก เหมือนในป่า

เราก็จะสามารถพบงูเลื้อยอยู่ตามพื้นบ้านของเราได้ซึ่ง ไม่เฉพาะกับคนที่อาศัยอยู่ตามต่างจังหวัดเท่านั้นตามในเมือง ในกรุงเทพหรือตามหมู่บ้านใหญ่ๆก็สามารถพบปัญหานี้ได้เช่นกัน ดังนั้นเราควรหมั่นตรวจสอบภายในบริเวณบ้านของเราอยู่ตลอดเวลาให้แน่ใจว่าจะไม่มีงูหลุดเข้ามาในบ้าน

เหมือนกับหญิงสาวคนหนึ่งที่โพสต์ข้อความบอกเล่าเรื่องราวของคุณแม่ที่เพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆ จนมีแผลบาดเจ็บตามร่างกายจากการที่ถูกงูกัด ซึ่งหญิงคนดังกล่าวได้โพสต์เล่าเรื่องราวว่า แม่ของเธอเดินไปเข้าห้องน้ำตามปกติและเมื่อนั่งชักโครกก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรมาฉกที่ขา แม่ของเธอใช้มือจับเอาไว้

ซึ่งจับได้เป็นหัวงู แม่จึงได้ตะโกนเรียกน้องชายและคนในบ้านให้เข้ามาช่วยแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน

ระหว่างนั้นงูก็พยายามรัดตัวแม่ ซึ่งแม่เองก็เริ่มกลัวมากแต่ปากก็ยังตะโกนให้คนมาช่วย จนน้องชายได้ยิน แต่เข้ามาก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะน้องชายก็กลัวงูเหมือนกัน น้องชายจึงวิ่งไปเอามีดมาให้แม่เพื่อทำการแทงงู แต่หนังของงูเหนียวมากทำให้แทงไม่เข้าส่วนตัวแม่ก็กลัวจนลนไปหมดจึงแทงผิดแทงถูก แทงมาโดนตัวเองจนเป็นแผลลึกอีก และน้องก็วิ่งไปเอาขวานมาให้แม่

ทำให้แม่ใช้ขวานทุบที่หัวงู จนงูยอมคลายรัดออกทำให้แม่รอดมาได้แต่ก็บาดเจ็บเยอะทั้งรอยแผลที่เกิดจากงูกัดขูดเป็นทางยาว ทั้งแผลจากที่การแทงโดนตัวเอง  ซึ่งหลังจากรอดออกมาก็เรียกกู้ภัยให้มาช่วยจับงูและตัวแม่ก็ไปทำแผลที่โรงพยาบาล

ซึ่งโพสต์ที่ออกมานี้ต้องการจะเตือนภัยกับทุกคนที่ก่อนเข้าห้องน้ำควรมีการกดน้ำเปล่าลงไปก่อนหนึ่งครั้งเพื่อดูว่ามีตัวอะไรมาค้างอยู่ในชักโครกหรือไม่จะได้ไม่เกิดอันตนรายเหมือนแม่ของตนเองและคนอื่นๆที่เคยเกิดเป็นข่าวดังมาก่อนหน้านี้ซึ่งคนส่วนใหญ่อ่านข่าวแล้วก็มักจะไม่สนใจ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว