มีคนบ่นผ่านพันทิพ วันหยุดยาวอยากพักแต่ต้องไปงานแต่งเพือน

Published / by admin

                 ในโลกสังคมออนไลน์กำลังมีการถกเถียงและแสดงความคิดเห็นกันอย่างสนั่นหวั่นไหวเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งได้ขอพื้นที่ระบายใน Pantip   โดยสิ่งที่เธอระบายนั้นเป็นการพูดถึงเรื่องราวในวันหยุดซึ่งเธอมีความตั้งใจว่าจะได้ไปเที่ยวกับครอบครัวและยังได้หาเวลาพักผ่อนนั่งตากตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเธอต้องทำงานอย่างหนักและไม่มีเวลาเที่ยวกับครอบครัวของเธอเลย

        แต่เรื่องราวการท่องเที่ยวของเธอและแผนการเที่ยวของเธอจำเป็นต้องสะดุดตรงสาเหตุนั่นก็เพราะว่าเธอได้รับแจ้งจากเพื่อนสาวของเธอซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยเรียนหนังสือด้วยกันมาประกาศแต่งงานในช่วงวันหยุดยาวทำให้เธอนั้นจำเป็นต้องออกมาระบายว่าแผนการท่องเที่ยวของเธอกับครอบครัวจำเป็นต้องยุติเพราะเธอต้องไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อน

          ซึ่งเธอระบุใน Pantip ว่าถึงแม้เธอจะมีแผนการที่จะไปเที่ยววันหยุดกับครอบครัวแต่เธอก็สามารถที่จะยกเลิกและไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนของเธอได้เธอเพียงแค่ต้องการระบายความรู้สึกของเธอเพียงเท่านั้นและอยากฝากบอกคนที่กำลังจะแต่งงานในช่วงนี้ว่าไม่ควรที่จะมีการจัดงานในช่วงวันหยุดยาวเพราะคนอื่นจะได้ไปทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวของพวกเขาได้

          อย่างไรก็ตามเมื่อข้อความของเธอนั้นถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ถกเถียงกันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานในช่วงวันหยุดยาวซึ่งหลายคนมองว่าการจัดงานแต่งงานนั้นเป็นความสะดวกของคู่บ่าวสาวที่พวกเขาหาฤกษ์งามยามดีเอาไว้แล้วดังนั้นหากเขาสะดวกเมื่อไหร่เขาก็จัดงานแต่งงาน

โดยที่หาเพื่อนในกลุ่มไม่สะดวกที่จะไปงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวก็สามารถที่จะบอกกับคู่บ่าวสาวได้โดยตรงเพราะเชื่อมั่นว่าบ่าวสาวนั้นคงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับการที่เพื่อนไม่มาร่วมงานแต่งงานเพราะเชื่อว่าทุกคนต่างก็มีปัญหาและต่างก็มีแพลนของตนเองเอาไว้แล้วซึ่งถ้าหากบอกเหตุผลกับคู่บ่าวสาวตรงๆยังไงก็ไม่น่าจะมีปัญหา  

        และยังมีอีกหลายคนบอกว่าเพียงแค่เราใส่ซองไปจะไปหรือไม่ไปคู่บ่าวสาวก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้วที่สำคัญในงานแต่งงานนั้นบ่าวสาวๆก็จะมีกิจกรรมที่ต้องทำมากมายจึงไม่มีใครมาสนใจว่าเพื่อนคนไหนจะมาร่วมงานหรือไม่เพราะพวกเขาเองก็อาจจะไม่ได้คุยกันมากนักดังนั้นหากใครที่ไม่สะดวกไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนก็สามารถบอกกับเพื่อนได้เชื่อว่าถึงแม้ว่าเราไม่ไปงานแต่งงานคู่บ่าวสาวก็สามารถ งานแต่งงานต่อไปได้นั่นเอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    gclub

ความคิดเห็นของพ่อนายตำรวจที่แต่งเมียน้อย

Published / by admin

 

         จากเหตุการณ์ที่นายตำรวจได้แอบไปแต่งงานกับภรรยาน้อยจนเป็นข่าวโด่งดังเพราะเมียหลวงจับได้นั้นนักข่าวได้มีการเข้าไปพูดคุยสอบถามกับทางด้านคุณพ่อของนายตำรวจคนดังกล่าว   ซึ่งทางด้านคุณพ่อของนายตำรวจคนนั้นก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นของตนเองด้วยคุณพ่อของนายตำรวจเองก็เคยเป็นตำรวจมาก่อนและในขณะนี้ก็เกษียณราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

         โดยคุณพ่อของนายตำรวจนั้นได้พูดถึงลูกชายของตนเองว่าลูกชายของเขานั้นแต่งงานมีภรรยาและมีลูกอยู่ด้วยกันสองคนแล้วก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาตลอดจนช่วงหลังๆเพื่อนของลูกชายซึ่งเป็นตำรวจด้วยกันได้มาพูดให้กับคนในบ้านฟังไม่ว่าจะเป็นทางตัวคุณพ่อของนายตำรวจเองหรือคุณแม่ของนายตำรวจรวมถึงภรรยาของนายตำรวจนั้นก็ได้รับข้อมูลข่าวสารมาจากเพื่อนของนายตำรวจคนนี้ว่าในขณะนี้นายตำรวจคนนี้ได้แอบมีภรรยาน้อยและที่สำคัญกำลังจะมีการจัดงานแต่งงานกันเกิดขึ้น 

         แน่นอนว่าทุกคนในครอบครัวรู้สึกและคล้ายกับเรื่องราวที่มีการคุยกันแต่ก็ยังไม่มีใครเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์จนในวันเกิดเหตุนั้นเองทางด้านคุณแม่ของนายตำรวจได้พาภรรยาของนายตำรวจไปงานเพื่อให้ไปเห็นกับตาว่าใช่อย่างที่บรรดาเพื่อนของนายตำรวจได้มาเล่าให้ฟังหรือไม่และเมื่อไปถึงงานจึงได้เห็นว่าเป็นเรื่องจริง

        ซึ่งทางด้านคุณพ่อของนายตำรวจเองมองว่าสิ่งที่ลูกชายของเขาทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะลูกชายมีอาชีพเป็นตำรวจเป็นอาชีพที่มีเกียรติและต้องมีคุณธรรมจริยธรรมไม่ควรที่จะแอบไปมีภรรยาและภรรยาน้อยหรือถ้าหากจะมีจริงๆก็ควรจะอยู่กันอย่างเงียบๆไม่ควรแต่งงานกันออกหน้าออกตาแบบนี้เพราะมันเป็นการหยามศักดิ์ศรีของภรรยาหลวงเป็นอย่างมาก

          และที่สำคัญการที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วมีการทำผิดวินัยเองนั้นถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงมากเลยทีเดียวซึ่งตัวเขาเองนั้นหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้มีโอกาสเจอลูกชายในช่วงระยะเวลาสั้นๆแต่ก็ได้มีการอบรมสั่งสอนลูกชายไปบ้างแล้ว

        โดยคุณพ่อของนายตำรวจท่านนี้ยืนยันว่าการที่นายตำรวจคนนี้มีเมียน้อยหรือว่าไปแต่งงานนั้นลูกชายไม่เคยที่จะมาบอกกล่าวให้พ่อกับแม่ได้ทราบเลย  และยังยืนยันด้วยว่าถึงแม้ว่าลูกชายจะมาบอกให้ไปร่วมงานแต่งงานทั้งพ่อและแม่ก็คงไม่ไปเพราะลูกชายทำผิดและตัวของพวกเขาเองก็มีลูกสะใภ้และมีหลานที่ดีพร้อมอยู่แล้ว 

       จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า หากลูกทำความผิดพ่อแม่บางคนก็ ไม่ได้เข้าข้างลูกที่ทำความผิดเสมอไป

 

สนับสนุนโดย.   จีคลับ888

ดับแล้ว 18 ศพ เหยื่อซานต้ามรณะ

Published / by admin

        เมื่อวันที่ 26 เดือนธันวาคม ปีพศ 2562   สำนักข่าวของประเทศเบลเยี่ยมได้มีการนำเสนอข่าวที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า  โดยระบุว่า  มีคนชราในบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ความกันทีเดียว 157 คน  และขณะนี้มีคนเสียชีวิตแล้ว 18 คนด้วยกัน 

        ตามรายงานข่าวแจ้งว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่มีคนชราต้องติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูงถึง 150 7 คนนั้นมีสาเหตุเพราะว่ามีกลุ่มอาสาสมัครที่ต้องการ เข้าไปเยี่ยมผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราเนื่องจากเป็นเดือนแห่งเทศกาลวันคริสต์มาสและวันปีใหม่จึงมีอาสาสมัครจำนวนหลายคนแต่งกายเป็นซานตาคลอสเข้าไปเยี่ยมคนชรา  ซึ่งกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้จะพากันแต่งเครื่องแบบของซานตาคลอสและเข้าไปพูดคุยกับคนชราที่บ้านพัก

        และเหตุการณ์ที่น่าเศร้าก็เกิดขึ้นเมื่อมีชายคนหนึ่งแต่งชุดซานตาครอสเข้าไปที่บ้านพักคนชราเฮเาลริจก์ เพื่อไปส่งความสุขให้กับกลุ่มคนชราแต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวนั้นมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาและเมื่อเข้าไปภายในบริเวณบ้านพักก็ไปแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาให้กับคนชรา อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่ชายคนดังกล่าวจะเป็นอาสาสมัครไปบ้านพักคนชรานั้นเขาไม่ได้รู้ตัวมาก่อนว่าตนเองมีอาการติดเชื้อไวรัสแต่ภายหลังหลังจากที่กลับมาจากการทําจิตอาสาเรียบร้อยแล้วประมาณ 3 วันจึงพบว่าตนเองรู้สึกไม่สบายและเมื่อไปตรวจก็พบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในบ้านพักคนชราจึงได้มีการลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสุขภาพร่างกายของคนชราทั้งหมดและปรากฏว่ามีทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคนชราในบ้านพักดังกล่าวรวมถึงคนสูงอายุที่อยู่ภายในบ้านพักนั้นพากันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 157 คนโดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ในนั้นทั้งหมด 36 คนและนอกจากนี้ก็มีคนเสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 18 คนด้วยกัน

          ในขณะนี้สถานที่ต่างๆในประเทศเบลเยี่ยมจะมีการออกมาตรการคุมเข้มเกี่ยวกับเรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส  โดยจะต้องบังคับเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัยและบังคับให้เรื่องของการเว้นระยะห่างกันหากจะมีใครเข้าไปเยี่ยมคนชราที่บ้านพักคนชราเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ประชาชนชาวเบลเยี่ยมค่อนข้างหลังหลวมไม่ค่อยใส่ใจเรื่องของการใส่หน้ากากอนามัยรวมถึงไม่ค่อยเว้นระยะห่างระหว่างกันนั่นเอง  

ยังไงก็ตามได้มีการออกมาวิเคราะห์เกี่ยวกับจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในบ้านพักคนชราที่ค่อนข้างมีแต่ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งนั้นน่าจะมาจากบ้านพักคนชรานั้นอากาศไม่ถ่ายเทดังนั้นเมื่อมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ไปในพื้นที่ดังกล่าวจึงทำให้แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วและมีผู้ติดเชื้อเยอะนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    สล็อต ยิงปลา ฝากขั้น ต่ํา 100

แท็กซี่หัวร้อนลงจากรถตั้งใจเอามีดไปทำร้ายรปภ.

Published / by admin

             มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณท่ารถตู้ใหม่หมอชิตซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้มีพลเมืองดีได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้ด้วยโดยเหตุการณ์ในคลิปจะเห็นว่ามีแท็กซี่คันหนึ่งซึ่งเป็นสีชมพูทั้งคันได้พยายามจอดรถโดยลักษณะของการถอยเข้าถอยออกหรือสักระยะหนึ่งหลังจากนั้นเมื่อจอดรถได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ก็เดินลงมาจากรถพร้อมในมือถือมีดลงมาด้วยอีกทั้งยังมีการตะโกนด้วยนะเสียงมันดังโดยระบุว่ามีคนถีบรถของเขาและพยายามตามหาว่าใครที่เป็นคนถีบรถแท็กซี่คันสีชมพูของเขานั่นเองอย่างไรก็ตามในขณะที่ใช้เจ้าของรถแท็กซี่ได้ลงมาจากรถพร้อมกับถือมีดออกมาเพื่อจะข่มขู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปรากฏว่าเมื่อเขามองเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่เป็นจำนวนมาก

  ใช่คนที่ขับแท็กซี่ก็เกิดความหวาดกลัวจึงได้เดินกลับไปที่รถและขับรถออกไปซึ่งเมื่อคิดดังกล่าวได้มีการถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ทำให้หลายคนเข้ามาวิจารณ์กับการกระทำของคนขับรถแท็กซี่คนดังกล่าวว่าไม่สมควรที่จะมาเป็นคนขับรถแท็กซี่เพราะมีนิสัยหัวร้อนมากจนเกินไป

และยังมีการแซวคนขับรถแท็กซี่คนดังกล่าวด้วยว่าเขาสามารถตั้งสติได้เร็วมากทำให้เขานั้นไม่ได้รับอันตรายจากการที่จะถูกกลุ่มรปภช่วยกันรุมกระทืบเขานั่นเองและยังมีอีกหลายคนที่ออกมาคอมเม้นถึงการแต่งกายของแท็กซี่คนดังกล่าวซึ่งลักษณะของการสวมใส่นั้นไม่สุภาพและไม่เหมาะกับการขับแท็กซี่เป็นอย่างมาก

เพราะโดยปกติแล้วเราจะเห็นว่าคนขับรถแท็กซี่นั้นจะต้องมีการใส่รองเท้าคัทชูรวมถึงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าและกางเกงสีฟ้าซึ่งเป็นสีของรถแท็กซี่โดยตรงแต่ใช้ที่อยู่ในคลิปนั้นนอกจากจะเป็นคนขับแท็กซี่ก็ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเป็นพนักงานขับรถแท็กซี่จริงๆเพราะเขาแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีน้ำตาลกางเกงขายาวสีดำ

อีกทั้งยังใส่รองเท้าแตะซึ่งการแต่งกายแบบนี้ตามอนุญาตของการขนส่งแล้วไม่สามารถที่จะออกมาขับขี่รถแท็กซี่ได้ดังนั้นหลายคนจึงต้องการให้กรมขนส่งนั้นเรียกตัวแท็กซี่คนดังกล่าวไปทำการสอบสวนเกี่ยวกับพฤติกรรมการแต่งกายรวมถึงพฤติกรรมหัวร้อนของเขาที่ออกมาจะพกมีดมาทำร้ายคนอื่น

         อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครรู้ว่าแท็กซี่รายดังกล่าวนั้นเป็นใครและในขณะนี้เขาได้ถูกกรมการขนส่งเรียกไปพูดคุยตักเตือนและลงโทษแล้วหรือยังคงต้องรอข่าวจากกรมการขนส่งอีกครั้งหนึ่ง ถ้าจะมีการพักใบอนุญาตการขับแท็กซี่หรือไม่ 

 

สนับสนุนโดย   ufabet

หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้การบินไทยต้องล้มละลาย

Published / by admin

  

        สำหรับข่าวที่บริษัทการบินไทยถูกฟ้องล้มละลายนั้นเป็นข่าวดังทั่วประเทศและแน่นอนว่าน่าจะเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเลยทีเดียวเนื่องจากว่าบริษัทการบินไทยนั้นเป็นบริษัทใหญ่ที่มีการส่งเครื่องบินนั้นบินไปหลายประเทศทั่วโลกอย่างไรก็ตามถ้าหากดูจากจำนวนของผู้ที่ใช้บริการของบริษัทการบินไทย

ในการเดินทางแล้วก็เราจะเห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่นั้นนิยมเดินทางโดยเครื่องบินของสายการบินไทยมากกว่าเครื่องบินของบริษัทอื่นๆแต่เมื่อผลประกอบการออกมากับพบว่าบริษัทการบินไทยนั้นกับขาดทุนทุกปีจนในที่สุดนั้นก็ไม่สามารถที่จะประคับประคองเอาไว้ได้จึงได้มีการขอคำสั่งศาลล้มละลายและให้ศาลทำการพิทักษ์ทรัพย์สินซึ่งปัจจุบันนั้นบริษัทการบินไทยได้

มีการเปลี่ยนผู้บริหารเพื่อหวังว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะทำให้การบินไทยนั้นสามารถกลับมาดีได้เหมือนเดิมซึ่งการบินไทยกำลังประสบปัญหาอย่างหนักทั้งในเรื่องของเจ้าหนี้ที่ติดตามการทวงหนี้ทั้งในเรื่องของประชาชนที่ซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าและต้องการคืนตั๋วซึ่งตอนนี้ทางบริษัทการบินไทยเอง

ไม่มีงบพอที่จะจัดสรรคืนให้กับผู้โดยสารที่ต้องการขอคืนตั๋วและยังไม่มีเงินมากพอที่จะทำการใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้จำนวนหลายพันล้านบาท ยังไงก็ตามเมื่อมีการวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการที่บริษัทการบินไทยนั้นมีการซื้อเครื่องบินเช่าเหมาลำมาแล้วไม่ได้ใช้งานเป็นจำนวนหลายเครื่องรวมถึงยังมีเรื่องของการจ่ายเงินเดือนพนักงาน

และผู้บริหารที่สูงเกินความจำเป็นอย่างล่าสุดที่มีการแจกแจงออกมานั้นผู้บริหารบางคนนั้นสามารถได้รับเงินเดือนในหลัก 7 แสนถึง 8 แสนบาทในขณะเดียวกันนั้นก็ยังต้องมีการรับเงินเป็นค่าน้ำมันอีกต่างหากซึ่งค่าน้ำมันของแต่ละคนที่ได้รับนั้นก็ระดับเจ็ดหมื่นถึงเจ็ดหมื่นห้า เลยทีเดียว

แล้วถ้าหากว่าบุคคลเหล่านี้เวลาเดินทางไปที่ไหนก็ไม่ได้ใช้รถของตนเองซึ่งก็ไม่ได้เป็นการเปลืองน้ำมันแต่อย่างใดเพราะผู้บริหารระดับสูงแบบนี้เมื่อเวลาที่จะเดินทางไปต่อธุรกิจที่ไหนเขามักจะใช้รถสำหรับผู้บริหารที่เป็นรถของบริษัทอยู่แล้วดังนั้นค่าน้ำมันที่ทางผู้บริหารส่วนใหญ่ได้รับนั้นจึงถือว่าเป็นรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยและนี่หรือเปล่าที่ทำให้บริษัทการบินไทยนั้นถึงกับต้องล้มละลาย

เพราะไม่ว่าจะเป็นสถานะของเงินเดือนรวมถึงเงินที่จ่ายค่าน้ำมันและยังมีค่าอื่นๆอีกจิปาถะที่ทางผู้บริหารได้รับแบบฟรีๆโดยที่ไม่ต้องทำอะไรอย่างไรก็ตามถ้าอยากให้การบินไทยกลับมารุ่งเรืองได้เหมือนเดิมควรจะมีการตัดค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆเหล่านี้ออกไป

 

สนับสนุนโดย   gclub

อวยพรแล้วมุกแป๊ก ทำเอาแม่เจ้าสาวถูกเชิญออกจากงานแต่งงาน

Published / by admin

             คราวนี้เป็นเรื่องราวของต่างประเทศที่มีการพูดถึงเรื่องการแต่งงานของครอบครัวหนึ่งที่จัดขึ้นในประเทศอังกฤษโดยหญิงสาวเจ้าของงานแต่งงานหรือเราเรียกกันว่าเจ้าสาวนั้นได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าอันที่จริงแล้วเธอกับแม่ของเธอนั้นไม่ค่อยที่จะถูกกันมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ

แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อเธอได้แต่งงานทั้งทีเธอจึงคิดจะให้แม่ของเธอนั้นขึ้นมากล่าวคำอวยพรให้กับลูกซึ่งการจัดงานแต่งงานของเธอนั้นเธอคิดว่ามีแค่ครั้งเดียวในชีวิตดังนั้นจึงอยากจะให้แม่ขึ้นมาอวยพร

เพราะที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเธอกับแม่จะทะเลาะกันแต่แม่ก็ทะเลาะกับพี่สาวของเธอด้วยเช่นเดียวกันซึ่งในงานแต่งงานของพี่สาวของเธอนั้นแม่ก็อวยพรให้พี่สาวด้วยดีเธอจึงไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับงานแต่งงานของเธอโดยสิ่งที่ตั้งความฮือฮาให้กับคนที่ไปร่วมงานแต่งงานในครั้งนั้น

ก็เพราะว่าในช่วงจังหวะที่พิธีการได้เชิญแม่เจ้าสาวขึ้นไปกล่าวคำอวยพรนั้นแม่ของเจ้าสาวได้มีการพูดคำอวยพรออกมาซึ่งแต่ละคำนั้นทำให้คนที่ฟังนั้นไม่ได้รู้สึกสนุกสนานไปกับคำอวยพรนั้นไปด้วยเพราะคำพูดส่วนใหญ่เหมือนเป็นการด่าเจ้าสาวและนำเรื่องราวในอดีตของเจ้าสาวนั้นออกมาแฉให้กับคนในงานได้รู้จนในที่สุด

เพื่อนเจ้าบ่าวที่อยู่ภายในงานนั้นก็ทนไม่ได้ตัดสินใจลากตัวแม่เจ้าสาวออกจากงานทันทีซึ่งต่อมาแม่เจ้าสาวนั้นก็ได้ออกมาโวยวายเรื่องราวดังกล่าวว่าสร้างความอับอายให้กับเธอมากที่ถูกเชิญออกจากงานแต่งงานของลูกสาวของเธออย่างไรก็ตามทางด้าน เจ้าสาวนั้นก็ได้พูดถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า เธอรู้สึกเสียใจ

กับสิ่งที่แม่ของเธอทำมากเพราะแม่ของเธอนั้นสร้างความปลอดภัยให้กับงานแต่งงานของเธอมากเลยทีเดียวและเธอไม่คิดว่าแม่ของเธอจะทำกับเธอได้แบบนี้ยังไงก็ตามเธอยังไม่พูดถึงว่าหากกรณีแบบนี้เกิดขึ้นและเป็นทางฝ่ายของด้านเจ้าบ่าวเป็นผู้ทำงานแต่งงานให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เธอก็จะเป็นคนไปดึงญาติของเจ้าบ่าวออกจากงานเช่นเดียวกัน

          และถึงแม้งานแต่งงานในครั้งนั้นแม่ของเจ้าสาวจะทำสีเรื่องไปเยอะแต่งานก็สามารถดำเนินการได้ผ่านพ้นไปด้วยดีซึ่งคนในงานก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้นอีกเลย และถึงแม้ในงานนั้นเจ้าสาวจะเอามาจากการที่แม่ได้ออกมาแฉและต่อว่าเธอให้คนในงานรับทราบแต่ทางด้านครอบครัวของเจ้าบ่าวเองก็ไม่ได้สนใจภูเขายังคงปฏิบัติต่อเจ้าสาวอย่างดีจนงานแต่งงานนั้นสามารถผ่านพ้นไปได้

 

สนับสนุนโดย   สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

ยังฉาวได้อีกโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์

Published / by admin

ยังฉาวได้อีกโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์เมื่อครูบลูเอาไม้กวาดตีเด็กนักเรียนชั้นป 2 ยกห้อง 

     เพิ่งผ่านไปเพียงแค่ 2 วันเท่านั้นที่มีข่าวโรงเรียนสารสาสน์วิเทศถูกผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับครูพี่เลี้ยงซึ่งมีชื่อว่าครูจุ๋มที่มีการทำร้ายร่างกายเด็กอนุบาลซึ่งมีอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้นเป็นจำนวนหลายสิบคน

     อย่างไรก็ตามแต่ขั้นตอนดังกล่าวนั้นทำปกครองอยู่ระหว่างการแจ้งความดำเนินคดีกับครูจุ๋มพร้อมทั้งให้ทางโรงเรียนชดเชยความรู้สึกเด็กนักเรียนที่ถูกคุณครูทารุณกรรมด้วยการทุบตีซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอที่จะเห็นว่าครูจุ๋มนั้นได้ทำร้ายเด็กนักเรียนเป็นระยะเวลาทุกวันซึ่งในแต่ละวันนั้นมีเด็กหลายคนที่ถูกขุดหลุมทำร้ายร่างกาย

      อย่างไรก็ตามแต่เรื่องราวของครูจุ๋มทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนอนุบาล 1นยังอยู่ขั้นตอนของการดำเนินคดีทางกฎหมายอยู่แต่เรื่องราวของความอื้อฉาวของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ยังไม่จบลงเมื่อมีผู้ปกครองอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งระบุว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นป 2 ได้แจ้งความดำเนินคดีกับครูอาจารย์ผู้สอนของเด็กนักเรียนชั้นป 2

ซึ่งเป็นครูประจำชั้นโดยระบุว่าคุณครูคนดังกล่าวนั้นชื่อว่าครูบลู  ส่วนสาเหตุที่มีการแจ้งความดำเนินคดีนั้นก็เพราะว่าครูได้มีการทำร้ายเด็กนักเรียนทั้งชั้นด้วยการเอาไม้กวาดและที่ตักขยะตีเด็กนักเรียนทั้งชั้นโดยให้เหตุผลในการทำโทษในครั้งนั้นว่าเด็กนักเรียนส่งเสียงดัง

จึงต้องมีการถูกลงโทษซึ่งผู้ปกครองมองว่าการลงโทษด้วยการทำร้ายด้วยการทุบตีนั้นเป็นการรุนแรงจนเกินไปอีกทั้งสิ่งที่ใช้ตีลูกของตนเองนั้นก็ไม่ใช่ไม้เรียวแต่เป็นที่ตักขยะซึ่งเป็นสิ่งสกปรกทางด้านผู้ปกครองจึงรวมตัวกันเพื่อต้องการเอาผิดคุณครูบลู  

              โดยผู้ปกครองต้องการที่จะให้ทางโรงเรียนรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปล่อยให้คุณครูทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนซึ่งผู้ปกครองหลายคนมองว่าตนเองนั้นเสียเงินค่าใช้จ่ายที่เป็นผ้าเติมไหลหมื่นบาทแต่ลูกของพวกเขาต้องมาประสบปัญหาถูกทำร้ายร่างกายจากคุณครูที่สอนพวกเขานั้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่สามารถรับได้

            สำหรับเหตุการณ์ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ปล่อยให้คุณครูทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนนั้นไม่ใช่เพียงแค่ห้องเดียวหรือ 2 ห้องเพลงเท่านั้นแต่หลังจากที่มีการพูดคุยกับเด็กๆแล้วพบว่าเด็กๆนั้นได้มีการบอกกับผู้ปกครองของตนเองว่าถูกทำร้ายร่างกายหลายชั้นเรียนด้วยกัน

ซึ่งในขณะนี้ผู้ปกครองแต่ละคนก็พยายามหาหลักฐานเพื่อจะเอาผิดดำเนินคดีกับครูที่ทำร้ายร่างกายด้วยตนเองรวมถึงเอาผิดโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ที่ปล่อยให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและเรียกร้องให้หน่วยงานกระทรวงการศึกษาธิการออกมาตรวจสอบโรงเรียนดังกล่าวด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   จีคลับ ผ่านมือถือ

ผู้เสียหายกว่า 500 รายรวมตัวกันแจ้งความ

Published / by admin

ผู้เสียหายกว่า 500 รายรวมตัวกันแจ้งความเอาผิดกับท้าวแชร์ไว้ 18 ปีมูลค่าความเสียหายมาถึง 10 ล้านบาท

          เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนปีพศ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อจากประชาชนจำนวนหนึ่งได้มีการยื่นเอกสารให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหญิงสาวคนหนึ่งอายุ 18 ปีในข้อหาฉ้อโกงโดยผู้เสียหายที่เข้ามาร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้รวมตัวกันมาประมาณ 10 คน

มีการจดรายชื่อของผู้เสียหายจริงๆแล้วประมาณ 500 คนเลยทีเดียวซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็นพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงนักศึกษาส่วนเหตุการณ์ที่ต้องมีการมาแจ้งความในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่าหญิงสาววัย 18 ปีนั้นได้มีการเปิดเป็นท้าวแชร์เกิดขึ้นซึ่งใช้ชื่อว่าบ้านแชร์ณัฐธิดาพันธ์

โดยการติดต่อกันผ่านทางระบบไลน์เกี่ยวกับเรื่องของการคุยกันเรื่องของการส่งเงินค่าแชร์โดยมีคนหลงเชื่อส่งเงินค่าแชร์ให้กับหญิงสาวคนดังกล่าวไปเป็นจำนวนมากซึ่งรวมกันแล้วสูญเสียรายได้มากถึง 10 ล้านบาทเลยทีเดียวซึ่งแต่ละคนนั้นก็จะเสียหายแตกต่างกันไปมีทั้งหลักพันจนถึงหลักหมื่นรวมถึงเป็นหลักแสนเลยก็มีทั้งนี้หลายคนได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเนื่องจากสถานการณ์ของการระบาดไวรัสโคโรน่า

ทำให้พวกเขานั้นไม่มีรายได้เข้ามาเมื่อมีคนมายื่นข้อเสนอเรื่องของการเปิดท้าวแชร์และเป็นการแชร์ต่อๆกันมาสำหรับคนรู้จักกันจะได้สนใจและยิ่งหลงเชื่อมากเข้าไปใหญ่เมื่อเช้าแท้นั้นมีการเสนอผลตอบแทนค่อนข้างสูงและยังเคยมีการโอนเงินให้กับลูกแชร์จนได้รับเงินจากการเล่นแชร์ในครั้งนี้ไปแล้วหลายคนทำให้หลงเชื่อว่าการเล่นแชร์ในครั้งนี้จะไม่ได้รับผลกระทบอะไร

และไม่มีการโกงแชร์กันอย่างแน่นอนแต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีการส่งค่าแชร์ไปแล้วประมาณ 2-3 เดือนทุกคนต่างก็ไม่สามารถติดต่อท้าวแชร์ได้ซึ่งจึงได้มีการพูดคุยกันในกลุ่มไลน์เดิมทำให้รู้ว่ามีหลายคนที่ไม่ได้รับการโอนเงินค่าแชร์กลับมาให้ทำให้คิดว่าน่าจะถูกท้าวแชร์นั้น

หลอกโอนเงินไปเรียบร้อยแล้วจึงได้รวมตัวกันมาแจ้งความที่สถานีตำรวจซึ่งยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่ไม่ได้เดินทางมาแต่ก็พากันไปแจ้งความที่สถานีตำรวจตามบ้านของตนเองเรียบร้อยแล้วสำหรับเรื่องนี้นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมเอกสารเพื่อออกหมายเรียกท้าวแชร์เพื่อมาสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นและจะได้ดำเนินคดีต่อไป

              สำหรับการเล่นแชร์นั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายซึ่งอันที่จริงแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสามารถจับได้ทั้งท้าวแชร์แล้วก็คนเล่นแชร์เลยทีเดียวและการเล่นแชร์แบบนี้มีการออกมาพูดถึงกันบ่อยมากเกี่ยวกับเรื่องของให้ระมัดระวังเรื่องของการถูกโกงเมื่อมีการเล่นแชร์แต่ถึงแม้จะมีการเตือนภัยกันแล้วหลายครั้งแต่หลายคนก็ยังที่จะไม่เชื่อฟังและยังคงที่จะต้องการเล่นแชร์เพื่อหวังว่าเงินที่ได้มานั้นจะเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่มีการเดือดร้อนเรื่องของเงินทองในช่วงนี้นั่นเอง

ยิงกันเกือบตายเพียงเพราะเรื่องวางของล้ำที่กันเท่านั้น

Published / by admin

     มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรีเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 คนถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลส่วนสาเหตุของการบาดเจ็บนั้นเกิดจากการที่ทั้งสองคนนั้นใช้อาวุธปืนยิงกันซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนจากญาติของผู้บาดเจ็บทั้งคู่ก็ให้การรับสารภาพว่าจริงๆแล้วผู้บาดเจ็บทั้งสองคนนั้น

เคยเป็นอดีตตำรวจทั้งคู่และยังเป็นเครือญาติกันอีกด้วยโดยคนนึงเป็นพี่เขยส่วนอีกคนนึงนั้นก็เป็นน้องเมียซึ่งคนที่ให้ข้อมูลในครั้งนี้คือพี่สาวเลยบอกว่าอันที่จริงแล้วเรื่องราวน่าจะเกิดขึ้นจากการทะเลาะกันตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วเพราะปัจจุบันนี้ทางบ้านพี่สาวพี่เขยและน้องสายของตนนั้นก็ไม่ได้พูดคุยกันมานานเป็นปีแล้ว

ส่วนสาเหตุของจุดเริ่มต้นในการทะเลาะกันนั้นก็เกิดขึ้นเพราะว่าทางด้านพี่สาวนั้นต้องการที่จะมีการต่อเติมบ้านจึงได้มีการขนทรายและอุปกรณ์ต่อเติมบ้านมาวางไว้ตรงบริเวณหน้าบ้านซึ่งเป็นการเหลื่อมล้ำไปยังที่ดินของน้องชายแต่ไม่ได้แจ้งให้น้องชายทราบล่วงหน้าทำให้น้องชายนั้น

เกิดความไม่พอใจและเดินทางมาต่อว่าซึ่งหลังจากที่น้องชายมาว่าว่าไม่ให้เอาทรายมากองไว้หน้าบ้านตนเองในฐานะที่เป็นพี่สาวก็ได้เอาทรายกองนั้นออกจากบ้านของน้องชายทันทีแต่นับจากแต่นั้นมาก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยเพราะเกิดความไม่พอใจกันแต่ก็ไม่เคยมีการทะเลาะกันเรื่องอื่น

จนมาในวันเกิดเหตุนั้นอยู่ดีๆน้องชายก็ขับรถกระบะมาบริเวณหน้าบ้านแล้วนำอาวุธปืนยิงใส่เข้ามาภายในบ้านซึ่งทางด้านที่เคยเองซึ่งเป็นสามีของเธอก็ได้มีการอาวุธปืนยิงสวนกลับออกไปทำให้ทั้งคู่นั้นถูกกระสุนปืนด้วยกันทั้งคู่จนได้รับบาดเจ็บญาติๆจึงได้พาส่งตัวโรงพยาบาล

       สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้เป็นเรื่องราวของคนที่มีอารมณ์ร้อนถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันมานานเป็นปีแต่ก็ไม่ยอมที่จะยอมกันสักทีจนในที่สุดก็ต้องมาตัดสินกันด้วยการนำอาวุธปืนมายิงใส่กันและสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์อะไรดีขึ้นเพราะได้รับบาดเจ็บทั้งคู่โชคดีอย่างมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้คนทั้งคู่นั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งคู่ควรจะมีการยับยั้งชั่งใจและควรจะรู้และมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะถ้าเหตุการณ์ในครั้งนี้กระสุนปืนไปโดนคนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์เหตุการณ์จะร้ายแรงมากขึ้นกว่านี้อีกเพราะอันที่จริงแล้วเรื่องของการวางสิ่งกีดของขวางหน้าบ้านกันนั้น

หากไม่พอใจก็สามารถตกลงพูดกันด้วยดีได้ไม่เห็นจำเป็นต้องทะเลาะกันรุนแรงถึงขนาดต้องเอาปืนมายิงกันซึ่งสาเหตุการยิงกันที่แท้จริงอาจจะไม่ใช่เรื่องอย่างที่พี่สาวของนายตำรวจคนดังกล่าวพูดก็ได้ซึ่งอาจจะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาสาเหตุเพิ่มเติมต่อไป

 

สนับสนุนโดย   ufabet บาคาร่า

ช่วยผู้ต้องหาหนีจากนั้นพาไปข่มขืน

Published / by admin

        เป็นเรื่องราวฉาวๆ ของวงการตำรวจ เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งเธอถูกจับกุมในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองแต่เธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวเนื่องจากว่าเธอนั้นหนีออกจากห้องขังในช่วงที่มีการถูกคุมขังอยู่ที่ สน.ซึ่งหลังจากที่เธอถูกจับกุมตัวกลับมาได้แล้วให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอได้รับความช่วยเหลือ

จากเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งซึ่งมียศเป็นนายดาบพาเธอหลบหนีโดยนายดับคนดังกล่าวนั้นได้ช่วยเธอให้หลบหนีออกจากห้องคุมขังได้โดยแลกกับการที่เธอต้องไปนอนกับนายดาบคนดังกล่าวซึ่งเธอยืนยันว่าเธอไม่ได้เต็มใจแต่เธอถูกในดับคนดังกล่าวนั้นพาไปข่มขืนหลังจากที่มีการช่วยเหลือออกมาจากห้องขังแล้ว

โดยพาไปข่มขืนที่บริเวณห้องพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพักนั่นเองอย่างไรก็ตามทางด้านผู้ต้องหาที่หลบหนีได้ให้รายชื่อของนายดาบที่ช่วยในการหลบหนีเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บุคคโลกำลังทำการตรวจสอบว่านายดาบคนดังกล่าวมีความผิดจริง

หรือไม่เพราะถ้าหากเกิดว่าได้ทำเรื่องราวดังกล่าวจริงก็นับได้ว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงเป็นอย่างมากซึ่งบทลงโทษของการกระทำความผิดในครั้งนี้ก็คือการไล่ออกให้พ้นสภาพการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่มีการสืบสวนมาเริ่มมีการสอบเขาว่าจะเป็นเรื่องจริงและพบว่าในดาบคนนี้เคยกระทำการแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งในตอนนี้ในดับคนดังกล่าวยังคงให้การปฏิเสธอยู่และทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามรวบรวมเก็บหลักฐานเพื่อนำมาแสดงก่อนที่จะมีการสั่งขับไล่นายดาบคนนี้ให้ออกจากราชการแต่เบื้องต้นนั้น

ทางด้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้มีการเซ็นเอกสารไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในการขับไล่นายตำรวจคนดังกล่าวที่ทำผิดกฎหมายเสียเองสำหรับการลงโทษในการขับไล่ออกจากการเป็นตำรวจนั้นเป็นการลงโทษกรณีที่นายดาบคนดังกล่าวพาผู้ต้องขังหลบหนีออกจากห้องขังส่วนในกรณีที่มีการแจ้งข้อหานายตำรวจ

เพิ่มเกี่ยวกับเรื่องของการนำผู้ต้องขังไปข่มขืนในแฟลตหลังโรงพักนั้นคงต้องรอดูกันอีกทีนึงว่ามีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่เพราะถ้าหากเกิดขึ้นจริงก็จะมีการดำเนินคดีอีก 1 กระทงนั่นเอง

         สำหรับวงการตำรวจนั้นนับได้ว่ามีข่าวเช้าออกมาอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของการที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดเองหรือบางครั้งตำรวจก็มีการเกี่ยวข้องกับการที่เป็นมาเฟียจับกุมคนไปเรียกค่าไถ่ทำให้ในตอนนี้เรียกได้ว่าประชาชนนั้นไม่มั่นใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขาคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คอยดูแลความทุกข์และความสุขให้กับประชาชนหรือจริงๆแล้วพวกเขาคือผู้ที่ก่ออาชญากรรมเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    สมัครจีคลับ ไม่มีขั้นต่ำ