คลังเก็บหมวดหมู่: สังคมทั่วไป

ความรักในวัยทำงาน

Published / by admin

ในวัยทำงานนั้นความรักถือเป็นความรักในวัยที่ค่อนข้างมั่นคงมากกว่าในทุกๆวัย เพราะเป็นวัยที่เริ่มมีการสร้างเนื้อสร้างตัว แล้วทำให้คนในวัยทำงานส่วนใหญ่มีความจริงจังและจริงใจกับความรักจริงๆ คนวัยทำงานอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป เพราะวัยนี้คือวัยที่เรียนจบแล้วและเริ่มต้นทำงาน

บางคนอาจจะมีคู่รักตั้งแต่สมัยวัยรุ่นบ้างก็อยากหาคู่รักสักคนในวัยทำงานนี้ เพื่อการสร้างครอบครัวไปด้วยกัน ถึงคนวัยทำงานจะมีความมั่นคงและจริงใจและจริงจังค่อนข้างมาก แต่แน่นอนว่าคนในวัยนี้ต้องมีเรื่องการทำงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนในวัยนี้มักประสบปัญหาการเลิกลากัน

แน่นอนว่าความรักอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจกัน แต่บางครั้งมันก็มีเหตุผลอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นที่ทำให้คู่รักในวัยทำงานนี้ไปด้วยกันไม่รอด ความรักในวัยทำงาน คนในวัยนี้จะมองหาความมั่นคงในด้านต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงด้านการเงิน ความรับผิดชอบ ตลอดจนความซื่อสัตย์

และความรักในวัยทำงานนี้ต้องอาศัยความเข้าใจ และกันอย่างมากด้วย  เพราะเมื่ออยู่ในวัยที่ต้องทำงานต่างคนก็ต่างต้องออกไปทำงานของตนเอง และรับผิดชอบสิ่งที่ตนเองทำ ต่างฝ่ายต้องต่างเข้าใจในงานที่อีกอีกฝ่ายกำลังทำอยู่ด้วย หากไม่เข้าใจควรมีการพูดคุยการปรับเข้าหากัน

เพราะหากไม่มีการปรับหรือพูดคุยกันแล้วนั้นก็จะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถเป็นปัญหาที่เรื้อรังได้และนำพามาซึ่งการเลิกลาในที่สุด คนในวัยนี้ถือเป็นวัยที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน ความรักจึงหรือคนรักจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ เพราะความรักจากคนรักนั้นสามารถเป็นกำลังใจให้คุณได้เมื่อคุณเหนื่อยล้าจากงานที่ทำ

หรือเจอปัญหาจากงานที่ทำคุณจะมีคนรักของคุณคอยยู่เคียงข้าง และให้กำลังใจรับฟังปัญหาและซัพพอร์ตคุณในเรื่องต่างๆได้ และส่วนคนในวัยทำงานที่ยังไม่พบเจอความรักหรือคนรัก ขอให้คุณจงตั้งใจทำงานที่ตนเองรักแล้วความรักดีๆจะมาหาคุณจากงานที่คุณรักเองนั่นแหละ

ไม่ว่าใครก็ตามคงจะเป็นเรื่องปกติที่แอบชอบคนในที่ทำงานบ้างเพราะความใกล้ชิดจากการทำงานนั้นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็จะมีอยู่บ้างถ้าคนนั้นส่วนมากแล้วก็จะมีแฟนอยู่ตั้งแต่สมัยเรียนหรือว่าแฟนที่อยู่ใกล้บ้าน เราก็ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองนั้นอาจจะไม่ดีเหตุเพราะระยะห่างก็ตาม

 

สนับสนุนโดย    คาสิโนออนไลน์ เติมเงินขั้นต่ำ 100 เดียว

วิธีการตกปลากดในแม่น้ำลำคลอง

Published / by admin

การตกปลากดนั้นเราจะพบเห็นได้ในแม่น้ำลำคลองที่เป็นห้วยทางธรรมชาติหรือตามลำคลองที่มีผักบุ้งหรือตรงที่มีผักกระเฉดซึ่งปลากดนั้นตามลำคลองนั้นจะมีลักษณะตัวที่ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ไม่เหมือนกับที่ปลากดนั้นอาศัยอยู่ตามแม่น้ำโขง หรือตามแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับปลากดแม่น้ำลำคลองนั้น

เป็นปลาที่เรานั้นหาได้ในช่วงฤดูน้ำหลากหรือตามคลองที่เป็นธรรมชาติก็ได้ ปลากดคลองนั้นสามารถอาศัยอยู่ทั่วไปและจะอย่ในน้ำที่ไม่มีความลึกมากเท่าไหร่ อย่างน้อยไม่เกิน 1.5 เมตร ปลากดนั้นชอบช่วงเวลาที่น้ำหลากเพราะมันชอบขึ้นมาเล่นน้ำ

โดยเฉพาะที่เป็นน้ำใหม่จะเห็นได้ว่าจะมีปลากดนั้นขึ้นมาเล่นน้ำเป็นจำนวนมาก ปลากดนั้นมีอยู่สองประเภค เช่นปลากดเหลือง กับ ปลากดคัง ปลากดเหลือนั้นเป็นปลาน้ำจืดที่ไม่มีเกล็ดจะมีลำตัวที่ยาวและมีส่วนหัวที่เเบนและมมีฟันเป็นซี่เล็กๆเรียงติดกินเอาไว้ใช้สำหรับการกินเหยื่อและจะมีหวนดที่ยาวติดอยู่บนฝีปากทั้งบนและล่าง

ปลากดนั้นตัวจะโตเมที่ก็จะมีสีที่แตกต่างไปจากตัวเล็กขนาดตัวเต็มที่นั้นจะมีสีบนหลังเป็นสีน้ำตาลปนดำเล็กน้อยใต้ท้องนั้นจะมีสีขาวสดมากของปลากด ซึ่งปลากดนั้นก็จัดอยู่ในปลาที่กินเนื้อเหมือนกันจะกินพวกกุ้งสดแมลงตามขอนไม้ต่างๆ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับในการตกปลากดนั้นจะเป็นไม้ไผ่ธรรมดาเราหาตัดได้ตามป่าไผ่ที่มี

หรือเราจะซื้อกับทางร้านที่ขายอุปกรณ์ตกปลาก็ได้หากเรานั้นไม่อยากออกไปหาตัดไม้ไผ่เอามาเป็นคันเบ็ด จากนั้นให้เราเลือกใช้สายอะไรก็ได้นำมามัดตัวเบ็ดกับคันเบ็ดไม่ว่าจะเป็นสายเอ็น หรือสายpe ก็แล้วแต่เทคนิคแต่ละคน สำหรับตัวเบ็ดนั้นที่ใช้สำหรับในการตกปลากดคลองที่ดีนั้นต้องเป็นตะข้อเบ็ดเบอร์ 9ของตะข้อเบ็ดมัสตาร์ดเป็นตัวเบ็ดที่นิยมใช้กันอย่างมากตัวเบ็ดนั้นจะคมและติดปลาได้ไม่มีหลุด 

การตกปลากดนั้นเราจะอ่อยเหยื่อปลาก่อนก็ได้หรือเราไม่ต้องอ่อยเหยื่อเรานั้นใช้เหยื่อสดตกเลยก็ได้ เหยื่อสดนั้นมีหลายประเภคที่ใช้สำหรับตกปลากดคลองนั้น เช่น เหยื่อไส้เดือน เหยื่อหัวใจไก่ หรือจะเป็นกุ้งสดก็ได้เหมือนกัน

ปลากดคลองนั้นยังมีรสชาติที่อ่อยไม่แพ้กับปลาชนิดตัวอื่นเหมือนกัน ปลากดเราจะนำไปต้มแกงหรือเอาไปทอดน้ำปลาก็ได้อร่อยได้ทุกเมนูยิ่งเมนูที่อร่อยก็คือแกงคั่วหน่อไม้ปลากดรับลองความอร่อย

 

สนับสนุนโดย  จีคลับคาสิโนออนไลน์

กลับจากญี่ปุ่น 32 คนพบว่ามีไข้ขึ้นสูงจำนวน 6 คน

Published / by admin

       กำลังทยอยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศกันอย่างต่อเนื่องสำหรับคนไทยที่เดินทางไปอยู่ต่างประเทศไม่ว่าจะไปทำงานหรือแม้แต่ไปเรียนแลกเปลี่ยนหรือไปศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศช่วงนี้ทุกคนเริ่มทยอยเดินทางกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยเนื่องจากต่างประเทศมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าและมีผู้เสียชีวิต

และมีผู้ติดเชื้อมากกว่าประเทศไทยเป็นอย่างมากดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงต้องการกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเพราะถือว่ามีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสค่อนข้างดีกว่าประเทศอื่นๆและมั่นใจว่าการกลับมาอยู่กับคนในครอบครัวจะทำให้ มีความสุขมากกว่าการอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายที่ต่างประเทศซึ่งในวันนี้วันที่ 8 เดือนเมษายนปีพศ. 2563

ที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 16:30 น. ซึ่งมีทางเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปต้อนรับเราทุกคนที่เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาถึงประเทศไทยโดยมีคนไทยทั้งสิ้นจำนวน 32 คนที่มีการตกค้างอยู่ที่สนามบินของประเทศญี่ปุ่นซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือว่าห้องนอนอยู่ที่สนามบินญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาหลายวันแล้ว

อายคนเกรงว่าตนเองจะติดเชื้อไวรัสจากประเทศญี่ปุ่นด้วยซ้ำเพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยมากพอเนื่องจากต้องมีการพักที่สนามบินโดยอาศัยนอนตามเก้าอี้ที่นั่งรอขึ้นเครื่อง และเมื่อประชาชนที่เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้รับการตรวจคัดกรองหาเชื้อพบว่าจำนวน 32 คนที่เดินทางมานั้นมีทั้งหมด 6 คนที่มีอาการไข้สูงจึงจำเป็นต้องแยกตัวเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามขั้นตอนของทางรัฐบาลที่มีการจัดเตรียมการเอาไว้ส่วนบุคคลที่เหลือก็จะมีการนำตัวไปกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน

ก่อนที่จะมีการส่งตัวกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดหากไม่มีอาการไข้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมที่พักเอาไว้ให้แล้วโดยมีการจองโรงแรมแถวพระราม 9 ให้ผู้โดยสารทั้งหมดเข้าพักอาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาประเทศไทยในครั้งนี้ไม่มีการโวยวายแต่อย่างใดทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีที่จะทำการกักตนเองตามสถานที่ทางรัฐบาลได้มีการจัดเตรียมเอาไว้ให้ 

      สำหรับนโยบายการกักตัวผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศก่อนที่จะให้กลับไปที่บ้านเกิดของ ตัวเองนั้นควรเป็นนโยบายที่กระทำมาตั้งแต่ต้นแล้วเพราะว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้แต่หลังจากที่มีผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศไม่ยอมกับตัวทำให้เชื้อมีการลุกลามแพร่ขยายอย่างกว้างขวางทำให้ตอนนี้ประเทศไทยเกือบทุกภาคจังหวัดมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเป็นจำนวนมากซึ่งผลจากการที่ทางรัฐบาลสามารถควบคุมตัวผู้โดยสารให้กักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วันก่อน ส่งตัวกลับไปบ้านเกิดของผู้โดยสารเหล่านั้นจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น 

 

สนับสนุนโดย   ยูฟ่าเบท365

เช็คดวงประจำปี ชาวราศี กุมภ์(13 กุมภาพันธ์ -13 มีนาคม)

Published / by admin

         สำหรับไพ่ประจำตัวของชาวราศีกุมภ์ ในปี 2563 นี้คือ The Sun   สำหรับปีนี้เป็นปีทองของชาวราศีกุมภ์เลยก็ว่าได้ ปีนี้มีแต่โชคลาภเข้ามา อยากได้อะไร อยากทำอะไรที่ไหน ก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ มีเงินทองไหลมาเทมา

ใครที่เคยมีหนี้มีสินก็จะมีเงินมาปลดหนี้ มีช่องทางติดต่อธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า คุณจะมีเพื่อร่วมงานที่ดี ทำให้งานราบรื่นไม่ติดขัด บางคนจะกลายเป็นคนที่มีคนรู้จักกันทั่ว จะดังในชั่วข้ามคืน ใครๆก็อยากจะมาทำความรู้จักกับชาวราศีกุมภ์

          สำหรับเรื่องการเงิน จับได้ไพ่   Ace of Pentacles    เป็นไพ่ที่ดี บ่งบอกว่าคุณจะมีเงินทองไหลมาเทมา มีลาภก้อนโต ในปีนี้ชาวราศีกุมภ์จะร่ำรวยเป็นเศรษฐี ลงทุนค้าขายกับใครก็จะประสบความสำเร็จ แต่ให้ระวังเรื่องการใช้เงิน เพราะเงินหาได้มาง่ายก็จะมีการใช้จ่าย ออกไปง่ายๆ ไม่ค่อยระวังอยากซื้ออะไรก็จะซื้อโดยไม่คิดก่อน ใครห้ามก็ไม่ฟัง  สิ่งที่อยากแนะนำคือ คุณไม่ได้ดวงดีแบบนี้ทุกปี ดังนั้นในช่วงที่ทำอะไรก็ดีก็คล่องไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินก็ให้เก็บเงินไว้บ้างอย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย 

          สำหรับเรื่องของการงาน  จับได้ไพ่  Eight of Wands ก็บอกแล้วว่าปีนี้เป็นปีทองของคุณ ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร โอกาสในการทำงานก็ไม่มีอุปสรรคอะไรมาขวางกั้น ให้ระวังเรื่องการทำงานหนักมากเกินไป ควรหาเวลาพักผ่อน ควรเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้แสดงฝีมือการทำงานบ้าง เพราะหากคุณเอางานมาทำเองหมดคนเดียวอาจจะทำให้งานล่าช้าได้ 

           สำหรับเรื่องของความรัก  จับได้ไพ่ Three of Cups  คนที่มีคนรกอยู่อาจมีมือที่สามเข้ามาแทรกกลางได้ หรือคนโสดตอนนี้ อาจจะเจอคนถูกใจ จนสานสัมพันธ์ต่อกลายเป็นคนรักได้ สำหรับคนโสดควรออกไปเจอผู้คน เข้าไปเจอสังคมใหม่ๆบ้างจะได้เจอกับเนื้อคู่ และสำหรับคู่สามีภรรยาที่อยู่ระหว่างการขัดใจกัน อาจเกิดปัญหาการหย่าร้างในปีนี้ 

            สำหรับเรื่องที่ ควรระวัง ของชาวราศีกุมภ์ คือ จะมีปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสาร การพูดไม่ตรงกับใจที่คิด จะทำให้ชีวิตเกิดความวุ่นวายได้  การพูดที่ไม่ตรงกับใจคิดอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาทำให้มีมือที่สามมาแทรกกลางระหว่างคุณ กับคนรักได้  อย่าหรอกตัวเอง และพยายามปรับความเข้าใจกัน  สำหรับปีนี้ถ้าหากคุณยังปากไม่ตรงกับใจอยู่แบบนี้ อาจถึงเวลาที่ต้องเสียคนที่คุณรักไป 

 

สนับสนุนโดย  Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

สื่อไทยไร้จรรยาบรรณ ควรปฏิรูป

Published / by admin

พูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านเมื่อไม่นานนี้ที่โคราช หลายคนคงจะเห็นข่าวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์สุดน่ากลัวของชาวโคราชและชาวไทยเลยก็ว่าได้ แล้วเกี่ยวอะไรกับสื่อ? จะบอกว่าไม่เกี่ยวก็คงจะไม่ได้ เพราะสื่อที่เหมือนเบาะแสสำคัญของคนร้าย

ที่ทำให้คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆที่ได้เข้าไปทำการช่วยเหลือ ในการจับกุมคนร้าย และช่วยเหลือประชาชนที่ยังคงติดค้างอยู่ภายในห้องTerminal21 ที่เมืองโคราช เพราะสาเหตุนี้จึงทำให้ผู้ต่างก็พากันโทษสื่อเพิ่มขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เห็นว่าสำคัญ ในทุกๆสายอาชีพก็จะมีจรรยาบรรณหรือกฎที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อควบคุมระบบการทำงานของอาชีพนั้นๆ เช่นเดียวกับ สื่อ ที่ก็มีจรรยาบรรณสื่อสารมวลชน

แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สื่อบางช่องนั้นได้ทำการละเมิดจรรยาบรรณ เปิดเผยข้อมูลข่าวออกไปทั้งหมด ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ปฏิบัติหน้าที่และประพฤตตนได้อย่างเหมาะสม ทำให้ชาวโชเชียลรุมต่อว่าว่ากระทำเหล่านี้ของสื่อ ส่งผลให้การกราดยิงในครั้งนี้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ชี้นำทางให้คนร้ายรู้การทำงานการวางแผนของเจ้าหน้าที่ ทำไมให้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าจับกุมตัวคนร้าย

ซึ่งใช้เวลานานถึง 17 ชั่วโมงกว่าจะจับตัวคนร้ายได้และทำการวิสามัญทันที เพราะโดยปกติแล้วการที่เจ้าหน้าที่ล้อมพื้นที่เอาไว้ คนร้ายไม่มีทางหนีได้อย่างแน่นอน แต่เพราะสื่อนั้นได้ทำการถ่ายทอดการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้น ที่ทำให้คนร้ายทราบความเคลื่อนไหวต่างๆและหาทางหลบหลีกได้

ซึ่งเหตุการณ์ที่สื่อรายงานและเป็นอุปสรรคต่อเจ้าหน้าที่มีดังนี้

1.สื่อรายงานว่าถ้าต้องการเห็นสถานการณ์ความเสียหายตอนนี้ให้ขึ้นไปบนหอคอยสังเกตการณ์ของห้างTerminal21 ซึ่งในเวลาต่อมาคนร้ายได้ทำการขึ้นไปชั้นบนสุดของหอคอยเพื่อดูสถานการณ์จริง

2.สื่อรายงานว่าตำแหน่งต่างๆที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการปฏิบัติ การเคลื่อนไหว รวมไปถึงงาน ซึ่งทำให้คนร้ายทราบตำแหน่งของเจ้าหน้าที่

3.สื่อรายงานว่าได้มีเจ้าหน้าที่สไนเปอร์ทำการซุ่มยิงอยู่บริเวณไหนบ้างภายในห้าง ทำให้คนร้ายไหวตัวทันหนีหลบลงไปอยู่ชั้นใต้ดินของห้าง

4.สื่อรายงานว่าในการจับกุมครั้งนี้ได้มีการนำโดรนเข้ามาช่วย ซึ่งคนร้ายแต่เดิมนั้นเป็นนักกีฬาแม่นปืน ทำให้ยิงโดรนทิ้งได้อย่างแม่นยำ

5.สื่อรายงานว่าเจ้าหน้าที่นั้นได้ทำการดูความเคลื่อนไหวของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของห้างทุกตำแหน่ง จึงทำให้คนร้ายนั้นยิ่งกล้องวงจรปิดภายในห้างในจุดที่คนร้ายเดินผ่าน

6.สื่อทำการต่อสายโทรศัพท์ไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ โดยที่ทางครอบครัวนั้นยังไม่ได้ทราบหรือมีใครติดต่อมาก่อนเลยว่า มีคนในครอบครัวเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากนั้นยังทำการสัมภาษณ์ต่อ ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น หน้าที่นี้ไม่ใช่หน้าที่ของสื่อ

การดูแลตัวเองเมื่อต้องนอนดึกเพราะต้องอ่านหนังสือสอบ

Published / by admin

 สำหรับคนที่อยู่ในวัยเรียนจะมีบางช่วงที่ต้องนอนดึกมากๆ เพราะต้องอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ ดังนั้นหลายคนมักจึงมักจะมีสิวขึ้นตามใบหน้าเมื่อต้องนอนดึก รวมถึงผิวพรรณก็ไม่สวยสดในสมวัย

ดังนั้นเราจึงมีวิธีดูแลตัวเองในช่วงที่ต้องนอนดึกในการดูหนังสอบมาฝากน้องๆกันค่ะ

  1. เนื่องจากการนอนดึกทำให้ร่างกายที่ต้องผลิตฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องการดูแลผิวพรรณให้เปล่งปลั่งมีความปั่นป่วน เพราะโดยปกติแล้วการที่ร่างกายผลิตสารอะไรออกมาให้ร่างกายก็แล้วแต่จะมีช่วงเวลาที่ร่างกายจะผลิตสารนั้นดังนั้นการที่เรานอนไม่ตรงกับเวลาที่ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนทำให้ผิวพรรณของเราหมองคล้ำลง ไม่สดใส จึงควรต้องรับประทานอาหารที่มีพวกวิตามินบีและซีสูง  เช่นผัก ผลไม้และข้าวกล้อง
  2. หากคนที่นอนดึกมากควรจะมีการเติมพลังให้กับตัวเองด้วยการหาอะไรอ่อนๆทานเพราะโดยปกติแล้วร่างกายคนเราเมื่อรับประทานอะไรเข้าไปแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 ชั่วโมงเพื่อต้องการรับสารอาหารเข้าไปเพิ่มดังนั้นหากเรากินข้าวในตอนเย็นสักประมาณ 6 โมงเย็นหลังตีหนึ่งไปแล้วร่างกายก็จะเริ่มกลับมาหิวอีกครั้งแต่ด้วยกลัวน้ำหนักขึ้นจึงควรหาอะไรทานนิดหน่อยเป็นการเติมพลังให้กับร่างกาย เช่น การทานโจ๊กธัญพืช หรือนมอุ่นเพื่อที่หลังจากอ่านหนังสือเสร็จเราจะได้นอนหลับสนิทด้วยค่ะ
  3. เราควรอาบน้ำตั้งแต่หัวค่ำแล้วจึงมาอ่านหนังสือและเมื่ออ่านหนังสือเสร็จควรจะรีบเข้านอนทันที อย่างน้อยควรมีการนอนให้ไม่ต่ำกว่า  4 ชั่วโมงเพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่เพลียจนเกินไป หากอ่านหนังสือเสร็จไม่ควรเล่นมือถือหรือหาอะไรกินแล้วเพราะจะทำให้นอนไม่หลับและที่สำคัญหากเราอ่านหนังสือเสร็จแล้วเพิ่งจะมาอาบน้ำนอนจะทำให้เรานอนไม่หลับเพราะการอาบน้ำจะเป็นการปลุกให้ร่างกายเกิดความรู้สึกสดชื่นขึ้นมากลายเป็นว่าทำให้เรานอนไม่หลับและมาเพลียและง่วงนอนในตอนเช้าได้
  4. หากต้องนอนดึกแนะนำการดื่มโก้โก้ร้อนหรือดาร์กชอคโกแลตแทนกาแฟ เพราะจะมีสารที่ไปกระตุ้นการไหลเวียนให้เลือดไปเลี้ยงสมองซึ่งจะดีกว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมาก เพราะการยิ่งดื่มคาเฟอีนเราจะยิ่งนอนไม่หลับทำให้ร่างกายทรุดโทรมและอ่อนเพลียได้ง่าย
  5. และอย่างสุดท้ายที่ควรทำหากมีการนอนดึกแล้วละก็ตอนที่ตื่นนอนในตอนเช้าควรสละเวลาสัก 5 นาทีบิดเนื้อบิดตัวหรือออกกำลังกายนิดหน่อยเพื่อให้ร่างกายมีความรู้สึกตื่นตัวจะได้สดชื่นในตอนเช้า