เป็นเรื่องราวฉาวๆ ของวงการตำรวจ เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งเธอถูกจับกุมในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองแต่เธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวเนื่องจากว่าเธอนั้นหนีออกจากห้องขังในช่วงที่มีการถูกคุมขังอยู่ที่ สน.ซึ่งหลังจากที่เธอถูกจับกุมตัวกลับมาได้แล้วให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอได้รับความช่วยเหลือ

จากเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งซึ่งมียศเป็นนายดาบพาเธอหลบหนีโดยนายดับคนดังกล่าวนั้นได้ช่วยเธอให้หลบหนีออกจากห้องคุมขังได้โดยแลกกับการที่เธอต้องไปนอนกับนายดาบคนดังกล่าวซึ่งเธอยืนยันว่าเธอไม่ได้เต็มใจแต่เธอถูกในดับคนดังกล่าวนั้นพาไปข่มขืนหลังจากที่มีการช่วยเหลือออกมาจากห้องขังแล้ว

โดยพาไปข่มขืนที่บริเวณห้องพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพักนั่นเองอย่างไรก็ตามทางด้านผู้ต้องหาที่หลบหนีได้ให้รายชื่อของนายดาบที่ช่วยในการหลบหนีเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บุคคโลกำลังทำการตรวจสอบว่านายดาบคนดังกล่าวมีความผิดจริง

หรือไม่เพราะถ้าหากเกิดว่าได้ทำเรื่องราวดังกล่าวจริงก็นับได้ว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงเป็นอย่างมากซึ่งบทลงโทษของการกระทำความผิดในครั้งนี้ก็คือการไล่ออกให้พ้นสภาพการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่มีการสืบสวนมาเริ่มมีการสอบเขาว่าจะเป็นเรื่องจริงและพบว่าในดาบคนนี้เคยกระทำการแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งในตอนนี้ในดับคนดังกล่าวยังคงให้การปฏิเสธอยู่และทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามรวบรวมเก็บหลักฐานเพื่อนำมาแสดงก่อนที่จะมีการสั่งขับไล่นายดาบคนนี้ให้ออกจากราชการแต่เบื้องต้นนั้น

ทางด้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้มีการเซ็นเอกสารไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในการขับไล่นายตำรวจคนดังกล่าวที่ทำผิดกฎหมายเสียเองสำหรับการลงโทษในการขับไล่ออกจากการเป็นตำรวจนั้นเป็นการลงโทษกรณีที่นายดาบคนดังกล่าวพาผู้ต้องขังหลบหนีออกจากห้องขังส่วนในกรณีที่มีการแจ้งข้อหานายตำรวจ

เพิ่มเกี่ยวกับเรื่องของการนำผู้ต้องขังไปข่มขืนในแฟลตหลังโรงพักนั้นคงต้องรอดูกันอีกทีนึงว่ามีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่เพราะถ้าหากเกิดขึ้นจริงก็จะมีการดำเนินคดีอีก 1 กระทงนั่นเอง

         สำหรับวงการตำรวจนั้นนับได้ว่ามีข่าวเช้าออกมาอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของการที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดเองหรือบางครั้งตำรวจก็มีการเกี่ยวข้องกับการที่เป็นมาเฟียจับกุมคนไปเรียกค่าไถ่ทำให้ในตอนนี้เรียกได้ว่าประชาชนนั้นไม่มั่นใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขาคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คอยดูแลความทุกข์และความสุขให้กับประชาชนหรือจริงๆแล้วพวกเขาคือผู้ที่ก่ออาชญากรรมเอง

สนับสนุนเรื่องราวโดย    สมัครจีคลับ ไม่มีขั้นต่ำ

มีข้อความโพสต์จึงต่อว่าส่งมาจากทางฝั่งผีน้อยที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีถึงเหตุการณ์ที่เราผีน้อยจะเดินทางกลับมาประเทศไทยเพราะต้องการหนีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแต่กลับพบว่ามีหลายคนในประเทศไทยทำการต่อต้านไม่อยากให้เราผีน้อยที่เกาหลีเดินทางกลับมาในช่วงนี้

ซึ่งหรอกพี่น้อยทั้งหลายไม่พอใจเป็นอย่างมากโพสใน Facebook ประกาศยังไงก็จะกลับประเทศให้ได้และถ้าหากติดเชื้อก็จะนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนที่ต่อต้านซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่าในขณะนี้ประเทศเกาหลีใต้กำลังพบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างแพร่หลาย

และยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดังนั้นบรรดาคนไทยที่แอบนี้ไปทำงานยังต่างประเทศซึ่งในที่นี้คือประเทศเกาหลีและเราเรียกคนไทยกลุ่มนี้ว่ากลุ่มพี่น้อยได้พยายามร้องขอรัฐบาลไทยเพื่อที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยเนื่องจากต้องการหนีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

ในขณะเดียวกันที่ประชาชนคนไทยได้รับข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจะมีบรรดาผีน้อยเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ถึงประมาณ 5000 กว่าคนทำให้หลายคนค่อนข้างออกมาต่อต้านเกี่ยวกับการเดินทางกลับของบรรดาผีน้อยในครั้งนี้ด้วยห่วงว่าถ้าเกิดว่าแรงงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้

เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยเป็นจำนวนถึง 5000 คนอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยเพราะเราไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่าคนทั้ง 5000 กว่าคนนั้นจะไม่ได้รับการติดเชื้อมาจากทางเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อทางบรรดาแรงงานไทยที่อยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ได้รับทราบข่าวสารว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง

ต่อต้านไม่ให้ตนเองเดินทางกลับประเทศไทย ก็สร้างความไม่พอใจให้กับแรงงานไทยเรานั้นเป็นจำนวนมากจึงได้มีการโพสต์ข้อความลงบน Facebook ของกลุ่มพี่น้อยด้วยก็มาต่อว่าและด่าทอกลุ่มคนที่ออกมาต่อต้านให้ตนเอง

กับประเทศไทยรวมถึงมีการโชว์รายได้ว่าอยู่ที่เกาหลีใต้ได้รับเงินเดือนต่อวันวันละ 3000 บาทถึง 5000 บาทในขณะที่ทำงานที่ประเทศไทยได้รับเงินเพียงวันละ 300 บาทเท่านั้นโดยบอกว่าคนไทยเป็นคนขี้อิจฉาและเป็นคนเหยียดหยามคนอื่นเก่งรวมถึงมีอคติกับคนอื่น

ซึ่งหลายคนบอกว่ายังไงก็จะกลับมาเมืองไทยให้ได้เพราะเมืองไทยเป็นประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองและที่สำคัญหากตัวเองติดเชื้อไวรัสโคโรน่ากลับมาก็ถจะนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนที่ออกมาเหยียดและต่อต้านไม่ให้ตัวเองกับประเทศให้ต้องติดเชื้อโรคไปพร้อมพร้อมกัน

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการเถียงกันไปมาระหว่างคนไทยที่ยังไม่ต้องการให้มีการนำเชื้อเข้ามาแพร่ให้กับคนไทยมากขึ้นกว่าเดิมกับกลุ่มพี่น้อยที่อยากจะเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อต้องการหนีเชื้อไวรัสโคโรน่าในประเทศเกาหลีใต้

ได้รับการสนับสนุนโดย   สล็อตคาสิโนออนไลน์

ชีวิตสุดรันทดบิณฑ์บรรลือฤทธิ์จึงต้องออกจากบ้านทางที่รัฐบาลสั่งให้เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน

       ข้อมูลจาก Facebook ของคุณบิณฑ์บรรลือฤทธิ์ดารานักแสดงที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ช่วยเหลือประชาชนเรามักจะเห็นว่าคุณบินนั้นมักจะเดินทางไปยังบ้านของประชาชนต่างๆบ้านของชาวบ้านที่มีปัญหาเดือดร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บหรือแม้แต่ไม่มีเงินทองในการใช้จ่ายเราก็จะเห็นคุณบินมีการถ่ายรูปลักษณะของงานรวมถึงเล่า

เหตุการณ์ของงานที่ไปทำมาให้แฟนเพจของตนเองฟังซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันคุณบินได้บอกเหตุผลใน Facebook ว่าตอนแรกตั้งใจจะกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านตามนโยบายของทางรัฐบาลที่ให้ประชาชนอยู่ในบ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

อะไรคุณเป็นก็เกิดทนไม่ไหวขึ้นมาเมื่อมีคนขอความช่วยเหลือโดยครอบครัวที่คุณมินเข้าไปช่วยเหลือในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คนและแต่ละคนก็เจ็บไข้ได้ป่วยจนไม่สามารถทำงานทำการได้กันหมดซึ่งก่อนหน้านี้คนเป็นแม่ได้หาเลี้ยงทุกคนในครอบครัวด้วยการขายก๋วยเตี๋ยว

แต่ในปัจจุบันเนื่องจากว่ามีการปิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจึงทำให้คุณแม่ไม่สามารถเปิดขายก๋วยเตี๋ยวได้และคนอื่นในภายในบ้านก็ไม่ได้มีงานทำอย่างอื่นเลยเนื่องจากว่าป่วยกันหมดปัจจุบันทั้งบ้านมีเงินติดตัวไม่ถึง 500 บาทแต่มีการค้างค่าเช่าบ้านที่เช่าอยู่ทุกเดือนเป็นจำนวนถึง 8,000 บาท

ดังนั้นคุณบินจึงได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านทั้ง 4 คนด้วยการมอบเงินช่วยเหลือให้ไปทางชีวิตชั่วคราวไปก่อนเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาทและไม่มีการระบุในเพจของตนเองขอความช่วยเหลือจากแฟนเพจให้ช่วยกันบริจาคเงินให้กับครอบครัวนี้เพื่อต่อชีวิตให้พวกเราได้มีชีวิตต่อไป

เนื่องจากว่านอกจากจะต้องหาเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในการบินอยู่แล้วแต่ละคนก็ยังต้องไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งลูกชายก็ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก  ลูกสาวเขาป่วยติดเตียงตัวคุณพ่อเองก็ป่วยเป็นโรคไมเกรนและเป็นคนที่ชราภาพแล้วไม่มีแรงที่จะทำงานส่วนตัวคุณแม่ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวก็คือคุณรัชนีเองเธอ

ก็เป็นมะเร็งเต้านมซึ่งก็รักษาไปแล้วข้างนึงแต่ตอนนี้ก็มาป่วยเป็นโรคเบาหวานอีกดังนั้นทุกคนภายในบ้านมีแต่คนป่วยทั้งหมดจึงค่อนข้างที่จะหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้ยากมาก

เพราะมีคุณรัชนีแค่คนเดียวที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเลี้ยงครอบครัวในครั้งนี้ดังนั้นคุณจึงได้ฝากประชาชนที่คนไหนที่พอจะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติของเราได้ก็สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่บัญชีของคุณรัชนีโดยตรงซึ่งเลขที่บัญชีคุณบินก็ได้มีการแปะไว้ใน Facebook ของตนเองไว้เรียบร้อยแล้ว 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1