คลังเก็บหมวดหมู่: สังคม

งานวัด

Published / by admin

 งานวัดจัดเป็น ตลาดเล็กๆที่เหมือนกับเทศกาลเล็กๆในทุกจังหวัดเพราะงานวัดจะจัดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการฝังลูกนิมิตและการทำบุญบริจาคของญาติโยมต่างๆเพื่อให้มีส่วนร่วมในการจัดงานวัดครั้งใหญ่ ในงานวัดก็เหมือนกับตลาดทั่วไปแตกต่างตรงที่ว่าจัดงานตอนกลางคืน และสถานที่ที่จัดงานนั่นก็คือที่วัดแต่ละวัดก็จะมีทั้งงานเล็กงานใหญ่บางวัดก็เอาศิลปินที่ เรารู้จักกันมาหรือบางวัดก็เอาหมอลำ

มาเล่นโชว์เพื่อให้เกิดดนตรีและความสนุกสนานตลอดทั้งคืนภายในงานวัด จะมีของกินต่างๆของกินก็จะมีพวก ไข่นกกระทาขนมเบื้อง แมลงทอด ลูกชิ้น ไส้กรอก ผัดหมี่ก๋วยเตี๋ยว ชานมไข่มุก ขนมจีน และที่ขาดไม่ได้คือข้าวโพดอบเนยพวกน้ำปั่นต่างๆ ส่วนพวกของเล่นก็จะมีพวก ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน บ้านลม รถไฟของเด็ก

ส่วนพวกกิจกรรมให้ความสนุกสนานต่างๆก็จะเป็นพวก ปาลูกโป่ง เพราะเป็นจุดที่ทุกคนต้องมาเล่นโดยที่พูดถึงงานวัด จะต้องนึกถึงปาลูกโป่งก่อนเลย เเละก็จะมีพวก ยิงตุ๊กตาตัวเล็กๆ โดยการใช้ปืนลูกซองปลอมที่มีกระสุน ยิงไห้โดนตุ๊กตา ก็จะได้ตุ๊กตาที่ยิงร่วงได้ทั้งหมดเลย โดยการเล่นนี้ ก็จะเริ่มต้นที่ราคา20บาท

เเละก็มีการโยนห่วงด้วยหนังยาง ไห้ครอบฝาขวดน้ำอัดลม เมื่อได้เเล้ว เราก็จะได้น้ำอัดลมกลับบ้าน ถือว่าเป็นการเล่นที่ลุ้นมากอีกอย่างหนึ่ง เพราะหนังยางก็เล็ก เเถมยังต้องโยนไห้ครอบฝาขวดน้ำอัดลมอีก ส่วนใครอยากได้พวกปลา ก็มีกระชอนตักมา กระชอนละ10-20บาท

เเต่กระชอนนั้น จะทำด้วยกระดาษทิชชู่ ต้อง ตักไห้ได้ เพราะถ้ากระดาษทิชชู่นั้นขาดก่อนก็จะไม่ได้ปลาเลย มีทั้งปลาทอง ปลาหางนกยูง ซึ่งก็ต้องลุ้นว่ากระดาษทิชชู่จะขาดตอนไหน เเละถ้าพูดถึงสัตว์เเล้ว ในงานวัดบางวัด ก็จะมีป้อนนมเเพะ ป้อนนมหมูเเคระก็มี ซึ่งขวดนมที่จะป้อนนั้นก็ขวดละ20บาท

เเถมยังถ่ายรูปคู่ได้อีกด้วย เเละที่ขาดไม่ได้คือ การล่วงไหการกุศล เเต่ก่อนก็จะเป็นการสอยดาว เเต่เปลี่ยนมาเป็นล้วงไหการกุศลเเล้วต้องซื้อบัตรใบละ20 เเละต้องจับไห้ได้เลขตามที่ของโชว์อยู่ จึงจะได้ของนั้นไป 

ซึ่งกิจกรรมภายในงานวัดยังไม่หมดแค่นี้ยังมีอะไรให้เราได้เล่นสนุกสนุกได้อีกมากมาย และเด็กๆก็ยังสามารถมาเล่นในงานนี้ได้ เพราะมีทั้งของเล่นเด็กหลายหลายชนิดราคาก็ไม่แพงเริ่มต้นที่30 บาทถึง 60 ไม่เกิน 100 บาท โดยงานวัดจะจัดขึ้นสามวันหรือจัดตอนกลางคืนเท่านั้น งานก็เริ่มประมาณ 5 โมงถึงสี่ทุ่ม หรือบางวัดก็อาจจะจัด ถึง5 วัน 6 วัน 7วันก็ว่ากันไปตามงบประมาณของวัดที่คนบริจาคมา

ควรทำอย่างไรเมื่อต้องเข้าห้องน้ำสาธารณะ

Published / by admin

หลายคนที่คนเราเวลาออกไปทำธุระข้างนอกแล้วมักจะประสบกับปัญหาอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมากะทันหัน

ซึ่งแน่นอนเชื่อว่าหลายคนคงคิดเหมือนกันว่าหากไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่อยากเข้าห้องน้ำสาธารณะเลย เพราะนอกจากจะมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์แล้ว ยังสกปรกอย่างมากมายอีกด้วย ซึ่งบางคนเข้าไปใช้ห้องน้ำแล้วไม่กดชักโครกก็มี เราจะทราบกันดีว่าห้องน้ำเป็นแหล่งเพาะพันธ์ของเชื้อโรคยิ่งถ้าเป็นห้องน้ำสาธารณะเชื้อโรคก็ยิ่งมากเป็นพิเศษดังนั้น เราจึงควรรู้วิธีในการเข้าห้องน้ำสาธารณะให้ปลอดภัยห่างไกลจากเชื้อโรคกันค่ะ

เริ่มจากตั้งแต่เดินเข้ามาให้ห้องน้ำการที่เราจะเลือกว่าจะเข้าห้องไหนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

เพราะโดยปกติแล้วคนเราส่วนใหญ่จะคิดว่าคนจะต้องเข้าห้องน้ำต้นๆกันก่อนเราจึงมักจะเดินไปทางท้ายของห้องน้ำกันเสมอแต่อันที่จริงห้องน้ำห้องแรกก็มักจะไม่ค่อยมีคนใช้เพราะต่างก็คิดว่ามีคนใช้ห้องแรกอยู่ ดังนั้นเราจึงควรลองดูที่ห้องน้ำห้องแรกก่อนเป็นอันดับแรก เพราะตามสถิติแล้วห้องน้ำห้องแรกมักจะสะอาดกว่าห้องอื่น และเมื่อเราเข้าห้องน้ำมาแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาคือการลองกดน้ำในชักโครกก่อนหนึ่งครั้ง

เพื่อดูว่าน้ำไหลไหม เวลาทำธุระเสร็จแล้วเราสามารถกดน้ำได้ลงหรือไม่หลังจากนั้นให้นำกระดาษเปียกหรือกระดาษทิชชู เช็ดตรงที่นั่งตรงโถชักโครกให้สะอาด หรือจะนำกระดาษทิชชูรองไว้แล้วค่อยนั่งทับก็ได้ เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามโถชักโครก อ้อเกือบลืมบอกอีกอย่างว่าตรงปุ่มกดที่เรากดน้ำตรงนั้นก็เป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคเช่นเดียวกัน ดังนั้นก่อนกดปุ่มให้นำกระดาษทิชชูไปวางไว้ก่อนแล้วค่อยกดบนกระดาษลงไป

และเมื่อเราทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เก็บกระดาษทิชชูของเราทิ้งลงถังขยะให้หมด โดยให้ใช้เท้าแตะตรงด้านล่างของถังขยะให้ฝาถังขยะเปิดเอง

อย่าใช้มือของเราเป็นอันขาดเพราะที่ถังขยะเชื้อโรคจะเยอะมากที่สุดกว่าจุดอื่นเลยล่ะ และเมื่อเราทำธุระในห้องน้ำเสร็จก็อย่าลืมล้างมือทำความสะอาดให้เรียบร้อยถ้าที่ห้องน้ำมีสบู่ไห้ล้างก็ให้ใช้สบู่ด้วยจะดีมาก และเมื่อล้างเสร็จแล้วให้เช็ดมือให้แห้งด้วยกระดาษทิชชูทุกครั้ง จะมีบางที่ที่จะใช้ผ้าแห้งแขวนเอาไว้ให้เราเช็ค

อันนั้นไม่แนะนำเพราะเมื่อหลายคนเช็คผ้าจะมีความชื้นและเป็นแหล่งศูนย์รวมของเชื้อโรคและเชื้อราได้ หากเราสามารถปฏิบัติได้ตามนี้รับรองว่าจะปลอดภัยจากเชื้อโรคในห้องน้ำสาธารณะแน่เลย

สัตว์ที่มีชีวิตได้อย่างยาวนาน

Published / by admin

พวกคุณเคยสงสัยกันบ้างหรือป่าวว่าหากสิ่งที่มีชีวิตบนโลกใบนี้เป็นอมตะแล้วมันจะเป็นอย่างไรแน่นอนว่าได้มีเวลาทำในสิ่งที่ชอบและได้อยู่กับคนที่เรารักไปนานๆแต่นั้นมันก็ไม่ได้เป็นแค่เพียงความฝันอีกต่อไปเพราะว่าบนโลกของเรานั้นก็ได้มีสิ่งมีชีวิตที่มีอายุอย่างยาวนานจริงๆจนขนาดที่มนุษย์อย่างเราไม่สามารถอยู่ดูวาระสุดท้ายของมันได้

แมงกะพรุนสายพันธุ์อมตะ  

เมื่อพูดถึงแมงกะพรุนหลายคนก็อาจจะนึกถึงสัตว์ทะเลที่มีมีรูปร่างคล้ายร่มลำตัวโป่รงใสแลดูสวยงามในบางชนิดรับประทานได้และเรามักจะเห็นมันอยู่ในเย็นตาโฟหรือบุฟเฟ่อาหารทะเลแต่จะเชื่อหรือไม่ว่านอกจากแมงกระพรุนเหล่านี้แล้วยังมีบางสายพันธุ์ที่ครอบครองความเป็นอมตะอยู่ด้วยจริงและมันสามารถฟื้นฟูได้ด้วยตัวเองในยามบาทเจ็บได้อย่างอัศจรรย์

ซึ่งสามารถพบเห็นได้ในแถบทะเลของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและในหน้าน้ำของประเทศญี่ปุ่นซึ่งมันมีขนาด4.5มิลลิเมตรความพิเศษของมันนั้นอยู่ที่พวกมันสามารถแปรงร่างเป็นโพริพดอกไม้ทะเลจิ๊วได้เพื่อย้อยอายุของตัวเองได้หลายครั้งนอกจากนี้ร่างของพวกมันนั้นยังซ่อมแซมตัวเองได้แม้จะมีสภาพที่ถูกฉีดเป็นชิ้นๆและกลายร่าเป็นโพลิดอีกครั้งเพื่อรอการเกิดใหม่ความลับของมันนั้นอยู่ที่เซลล์

ต้นกำเนิดที่จะทำให้เจริญเติบโตได้โดยไม่จำกัดและเมื่อนักวิทยาศาสตร์ของชาวญี่ปุ่นนำเซลล์ของมันไปฉีดที่หนูทดลองก็พบว่าเซลล์ผิวหนังนั้นมันย้อนกลับได้คาดว่าในอนาคตมันอาจจะเป็นประโยชน์ในการเพาะเลี้ยงเซลล์ต่างๆทางการแพทย์ต่อไป

ปลาปอดลายหินอ่อน

หากเป็นสิ่งที่มีชีวิตอื่นขาดน้ำและอาหารไม่เกิด7วันก็คงจะเสียชีวิตไปแล้วแต่สำหรับปลาปอดลายหินอ่อนตัวนี้ที่นอกจากจะมีชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องกินอาหารและน้ำสะอาดได้เป็นปีแล้วและมันยังมีชีวิตอยู่นอกแหล่งน้ำได้นานกว่า5ปีอีกด้วยปลาปอดลายหินอ่อนมีต้นกำเนิดอยู่ที่แอฟริการาวๆ393 419ล้านปี

ก่อนมีรูปร่างยาวแบบทรงกระบอกเกล็ดเรียงตัวกันแน่นเรียบสนิดทั้งตัวปลายหางแหลมมีความยาวสูงสุดราวๆ2เมตรอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดเช่น แม่น้ำนายทะเลสาบวิกตอเรียความลับในการเอาตัวลอดของมันมีมาตั้งแต่เกิดเพราะว่าปลาปอดลายหินอ่อนนั้นมีจีโนมหรือสารพันธุกรรมจำเป็น

ในการสร้างและดำดงชีวิตสูงกว่าสิ่งที่มีชีวิตทั่วไปทำให้พวกมันยังมีชีวิตอยู่ได้แม้จะขาดน้ำและอาหารที่เป็นเวลานานรวมทั้งจะซ่อนตัวเข้าไปในดินและนอนนิ่งๆเพื่อประหยัดพลังงานนอกจากนี้พวกมันยังมีปอดสองข้างจึงทำให้มันอยู่ลอดทั้งบนบกและในน้ำได้อย่างสบายเลย

กระแส K-POP จะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน

Published / by admin

ประเทศไทยเรานั้นเป็นประเทศที่เปิดรับวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื่อชาติเอาไว้มาก หนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นวัฒนธรรมของประเทศเกาหลี เริ่มแรกนั้นเกาหลีนั้นนำละครหรือซีรีส์เขามาบุกในประเทศไทยเราก่อน จะเป็นความนิยมเพิ่มมากขึ้น

วัฒนธรรมที่ตามมานั้นการคืออาหาร และ ภาษา

หลายคนที่มีชื่นชอบทางวัฒนธรรมเกาหลีจากการได้ชมซีรีส์จะรู้สึกว่าอยากทำตามและศึกษาภาษาเอาไว้ เพื่อที่จะได้ต้องคอยฟังคำแปล และใช้เวลาเพียงไม่นาน เกาหลีก็ทำการปลุกกระแสของศิลปิน นักร้อง นักเต้น โดยการฝึกฝนความสามารถของคนคนหนึ่งให้มีความสามารถรอบด้านและมีเสน่ห์ สร้างสรรค์วิดีโอ และเพลงให้เป็นเอกลักษณ์ ที่ทุกคนสามารถฟังแล้วรู้สึกชื่นชอบ ติดหู และไม่ใช่แค่ความสำเร็จในประเทศของตัวเองเท่านั้น

แต่เกาหลียังสามารถทำให้ประสบความสำเร็จในต่างประเทศด้วยเช่นกัน

หนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย การชื่นชอบศิลปิน K-POP นั้นส่งผลที่ประโยชน์ให้แก่ประเทศเกาหลีได้อย่างมาก นอกจากจะเรื่องของอาหารและภาษาแล้ว ยังทำให้เหล่าคนที่ชื่นชอบถึงขั้นยอมนั่งเครื่องบินไปหาที่ประเทศเกาหลีเพื่อติดตามและชมงานคอนเสิร์ตเลยทีเดียว

เพราะในบางทีก็อาจจะอดทนรอไม่ไหวในการที่ศิลปินจะเดินทางมายังประเทศไทย เหตุนี้ที่ทำให้ K-POP เป็นกระแสและได้รับการยอมรับมากขึ้น เพราะรัฐบาลของเกาหลีนั้นได้เล็งเหตุว่า มีสิ่งที่ทำให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่มีความชื่นชอบในแนวเพลงเกาหลีได้เดินทางมาท่องเที่ยวในเกาหลีมากขึ้น

ทำให้เศรษฐกิจของเกาหลีดีมากยิ่งขึ้น

จึงมีการเปิดทางและสนับสนุนวงการเพลงเกาหลีอย่างเต็มรูปแบบ นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กระแสเพลง K-POP แพร่กระจายได้อย่างเป็นวงกว้าง แฟนคลับเกาหลี หรือในปัจจุบันถูกเรียกว่า ติ่ง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันว่า เมื่อปีช่วงปี 2012 กระแส K-POP เริ่มเงียบลงจากเดิมมาก

จะมีเพียงแค่ไม่กี่วงเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากปีนั้นจะเป็นกระแส เพราะก่อนปี2012นั้น วงการเพลงเกาหลีแต่ละวงเป็นที่น่าจดจำกับกลุ่มแฟนคลับทุกวงเป็นอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับปัจจุบันแล้ว บางวงไม่ได้รับความนิยมเลยด้วยซ้ำ หรือว่ากระแสK-POPใกล้จะหมดลงแล้ว

โดยเฉพาะในประเทศที่กระแสของวงการเพลงเกาหลีได้เข้ามามีบทบาทถึง 2 ทศวรรษเลยก็ว่าได้ เพราะเพลงเกาหลีในปัจจุบันนั้นก็มีแนวเพลงที่ซ้ำกันอยู่หลากหลายเพลง การที่จะสร้างเพลงให้มีความแตกต่างและติดหูทุกคนได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และนอกจากเพลงแล้วยังมีสาเหตุอื่นๆอีกที่จะทำให้ผู้รู้จัก K-POP มายิ่งขึ้น

แต่ในปี 2019-2020 นี้ ได้มีข่าวทางด้านลบของ K-POP ถูกปล่อยออกมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้บางคนได้มองภาพเหล่าแค่ศิลปินที่เปรียบเสมือนไอดอลกันเสียยกใหม่ เพราะได้ทำลายชื่อเสียงภาพของวงการเพลงเกาหลีไปได้ไม่มากก็น้อย และอาจจะทำให้กระแส K-POP หายไปได้ในอนาคตไม่ช้าก็เร็วอย่างแน่นอน

ต้นไม้มงคล ทนแล้งเหมาะปลูกที่บ้าน

Published / by admin

สำหรับภูมิอากาศของไทยเรา ตามข้อมูลแล้วจะมี 3 ฤดูคือ ฤดูร้อน ฤดูฝนและฤดูหนาว

ซึ่ง ณ ขณะนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน  เป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวมาแล้ว แต่หลายคนคงพูดได้เต็มปากเลยว่า ตอนนี้ยังไม่พบกับคำว่าหนาวเย็นกันเลย หลายพื้นที่ยังร้อนจนคิดว่าตอนนี้ยังคงอยู่ในสถานะของฤดูร้อนกันเลยที่เดียว อาจพูดได้ว่าประเทศไทยเกือบจะมีแค่ฤดูร้อนฤดูเดียวเท่านั้นตอนนี้ ดังนั้นเพื่อช่วยคลายร้อน

การปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงาจากต้นไม้มาช่วยบังแดด จึงเป็นตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่สมควรทำเป็นอย่างมาก มาดูกันว่าต้นไม้อะไรที่เหมาะกับอากาศของประเทศไทยในตอนนี้บ้าง   

       

 –          สาลิกาลิ้นทอง

ต้นไม้ชนิดนี้เหมาะมากที่จะปลูกในบ้านเรา เพราะเป็นไม้ใหญ่ที่ชอบแสงแดดจ้าตลอดวัน เป็นต้นไม้มงคลที่มีคนนิยมปลูกกันมาก เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ด้านการพูดจา ช่วยในเรื่องค้าขายให้ให้ดีขึ้น ต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ไม่ผลัดใบ สาลิกาลิ้นทองจะออกดอกเป็นสีขาวนวล และมีผลของดอกสีเขียวอมเหลือง และเมื่อโตเต็มที่จะมีสีแดง ต้นไม้ชนิดนี้จะโตค่อนช้างช้าเป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำปานกลางและสามารถทนแล้งได้ดี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรถน้ำทุกวันก็ได้ 

–          เหลืองปรีดียาธร 

เป็นต้นไม้อีกต้นที่ชอบแดดจัดตลอดทั้งวัน แต่ต้นไม้ชนิดนี้จะเป็นประเภทไม้พลัดใบ เป็นต้นไม้ที่มีผู้คนนิยมปลูกมากเช่นเดียวกัน ต้นเหลืองปรีดียาธร มีลักษณะ ดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ตัวดอกมีสีเหลือง และจะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคมสามารถทนแล้งได้ดีชอบน้ำปานกลางและชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดีด้วย

–          ต้นขนุน 

เป็นต้นไม้มงคล ที่ผู้คนสมัยก่อนนิยมปลูกในรั้วบ้าน ด้วยความหมายของชื่อ เพราะเชื่อว่าจะมีแต่คนคอยช่วยเหลือสนับสนุน ต้นขนุนสามารถปลูกได้กับดินทุกประเภท ทนแดดทนฝนได้ดี และยังมีผลที่สามารถกินได้ มีรสหวาน อร่อย แต่ต้นขนุนมีข้อควรระวังคือ ลูกขนุนเมื่อสุกแล้วจะมีกลิ่นแรง ถ้าเก็บไม่ทันปล่อยให้สุกคาต้นและส่งกลิ่นรุนแรงได้ และต้องระวังลูกขนุนร่วงใส่อีกด้วย 

นี่เป็นต้นไม้ใหญ่ 3 ชนิดที่แนะนำให้ปลูก ที่สามารถให้ร่มเงาบังแดดให้กับเราได้ในช่วงที่มีอาการร้อนนี้ และเป็นต้นไม้มลคลตามความเชื่อที่เชื่อว่าปลูกแล้วจะดีตามความหมายของชื่อต้นไม้ 

ที่สำคัญ ต้นไม้ทั้งสามชนิดนี้ เป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่มากนัก เพราะ ทนแดดทนฝน 2-3 วันรดน้ำครั้งหนึ่งได้