จากกรณีพ่อของน้องลมหนาว ซึ่งเป็นถึงผู้สื่อข่าวกีฬารุ่นใหญ่ได้มีการโพสต์ข้อความลงโซเชียลพูดถึงลูกชายของตนเองที่ได้ 0 วิชาสุขศึกษาและวิชาพลศึกษาทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับทางโรงเรียน
เนื่องจากว่าลูกชายได้ไปสร้างผลงานให้กับโรงเรียนแต่แก่ทางโรงเรียนปรับให้ลูกชายติด 0 โดยในปัจจุบันนั้นน้องลมหนาวเรียนอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพฯ ชั้นม. 3
อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่คนในโซเชียลได้รับทราบเรื่องราวของน้องลมหนาวต่างก็พากันรู้สึกไม่พอใจที่ทางคุณครูไม่ดูแลใส่ใจทั้งที่เด็กต้องหยุดเรียนและไม่สามารถไปสอบพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆได้เพียงเพราะว่าต้องไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติซึ่งทางโรงเรียนสมควรที่จะต้องมีการเลื่อนการสอบให้กับเด็กนักเรียน
ในที่สุดหลังจากที่มีดราม่าเกิดขึ้นทางโรงเรียนอัสสัมชัญก็ได้มีการออกมาชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการออกมายอมรับว่า ผลการสอบที่เป็นศูนย์ของน้องลมหนาวนั้นเป็นความผิดพลาดของระบบ AI ซึ่งเป็นคะแนนของการสอบกลางภาคเท่านั้นโดยน้องลมหนาวยังไม่ได้มีการติด 0 และยังไม่ได้มีการเรียนซ้ำชั้นแต่อย่างใด
เนื่องจากว่ายังต้องมีคะแนนจากการสอบปลายภาคมาสะสมเพิ่มด้วย นอกจากนี้ทางด้านโรงเรียนอัสสัมชัญยังออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่าทางโรงเรียนให้ความสำคัญกับนักเรียนที่คนที่สร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียน
ดังนั้นจึงจะมีคะแนนพิเศษให้กับนักเรียนที่ไปแข่งขันต่างๆและสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนอย่างแน่นอนโดยผลการให้คะแนนพิเศษนี้จะออกหลังจากที่มีการสอบปลายภาคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่ทางโรงเรียนอัสสัมชัญเท่านั้นที่ออกมาชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์ดราม่าของน้องลมหนาวนี้ส่งผลกระทบกับครูประชันชั้นที่สอนวิชาพลศึกษาและวิชาสุขศึกษาด้วยเช่นเดียวกันเนื่องจากว่ามีชาวโซเชียลที่ไม่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ไปต่อว่าคุณครูท่านนี้อย่างมากมายสุดท้ายแล้วคุณครูจึงได้ออกมาชี้แจง
โดยระบุว่าตัวเลขศูนย์ที่ให้ไปนั้นไม่ได้เป็นเกรดของน้องลมหนาวแต่เนื่องจากว่าน้องลมหนาวนั้นตั้งแต่เปิดเทอมมาไม่เคยส่งงานเลยและวิชาพลศึกษากับสุขศึกษานั้นก็ไม่ได้มีการสอบในช่วงกลางภาคดังนั้นจึงไม่มีคะแนนที่จะสามารถใส่ให้กับน้องลมหนาวได้แต่ถ้าหากว่าภายหลังน้องลมหนาวได้มีการนำงานที่สั่งมาส่งก่อนสอบปลายภาคคะแนนก็จะมีการเปลี่ยนจากเลข 0 เป็นเลขอื่นตามปกติ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นแนวความคิดของผู้ปกครองของน้องลมหนาวซึ่งถ้าหากผู้ปกครองได้มีการพูดคุยรายละเอียดกับคุณครูรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษาแล้วก็จะรู้ว่าเลขศูนย์ที่ตนเองออกมาโวยวายนั้นยังไม่ใช่เกรดที่ลูกชายของตนเองจะได้รับและสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องราวดังกล่าวอย่างไรได้บ้างโดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาดราม่าผ่านทางโลกออนไลน์
สนับสนุนเรื่องราวโดย huaylike เข้าสู่ระบบ